นายพันธ์ยศประธานพรรคภราดรภาพออกมาชี้แจง

Posted on 29 มีนาคม 202026 มีนาคม 2020Categories ข่าวที่น่าสนใจTags

นายพันธ์ยศประธานพรรคภราดรภาพออกมาชี้แจงเรื่องหน้ากากอนามัยบอกว่านายบอยพูดจาโอเวอร์

      จากกรณีที่มี Pages ดังเพจหนึ่งได้ออกมาแชร์เกี่ยวกับเรื่องของหน้ากากอนามัยที่กำลังขาดแคลนอยู่ในขณะนี้ โดยได้ออกมาบอกว่ามีคนกักตุนหน้ากากอนามัยไว้เพื่อนำสินค้าออกไปขายยังประเทศจีนและยังมีการเปิดเผยหลักฐานทั้งคลิปและรูปภาพรวมถึงข้อความที่บ่งบอกว่ามีการกระตุ้นหน้ากากอนามัยจริงและสถานที่ที่ทำการกระตุ้นอากาศอนามัยนั้นเมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นอาคารเดียวกับที่มีการตั้งพรรคภราดรภาพซึ่งมีนาย พันธ์ยศเป็นประธานของพรรค ซึ่งในพันธ์ยศ ได้มาออกรายการโหนกระแสเพื่อชี้แจงข้อมูลดังกล่าวว่าสำหรับรูปภาพที่มีการโพสต์อยู่นั้นเป็นรูปภาพที่เคยเกิดขึ้นจริง

แต่เป็นภาพเมื่อนานมาแล้วตั้งแต่เดือนมกราคมก่อนที่จะมีการประกาศพอเราบอต่อการควบคุมหน้ากากอนามัยซึ่งตอนนั้นในพันธ์ยศรับเป็นในหน้าหาหน้ากากอนามัยมาขายแต่ จำนวนหน้ากากอนามัยไม่ได้มากเท่ากับที่ไหนบอยมีการอัดคลิปไว้แน่นอนซึ่งในตอนนั้นที่มีการกระตุ้นหน้ากากอนามัยเอาไว้ส่งขายให้กับประเทศจีนเพราะว่าต้องการสร้างรายได้ให้เข้ามากับประเทศและไม่ได้มีการขายแพงแต่อย่างใดโดยกำไรจากการขายหน้ากากอนามัยในพันยศบอกว่าคิดแค่เพียงกำไรชิ้นละ 50 สตางค์เท่านั้นไม่ได้กำไรมากมาย

อย่างที่นายบอยได้มีการพูดเอาไว้ที่สำคัญสินค้าดังกล่าวได้มีการจำหน่ายออกไปหมดแล้วก่อนที่จะมีการประกาศใช้กฎหมายหน้ากากอนามัยและตอนนี้ตนเองก็มีหน้ากากอนามัยไว้ครอบครองไม่ถึง 10,000 ชิ้น  ส่วนในคลิปที่มีการเห็นว่ามีกล่องหน้ากากอนามัยจำนวนมากนำมาเก็บไว้ที่อาคารพรรคภราดรภาพนั้นนั้นเป็นการนำของมาจัดใหม่เพื่อทำการส่งให้ประเทศจีนในช่วงเดือนมกราถึงกุมภาซึ่งหลังจากมีการส่งออกไปเรียบร้อยแล้วก็ไม่มีสินค้าที่จะส่งอีกแล้วเนื่องจากสินค้าในประเทศไทยขาดแคนยืนยันได้ว่าตนเองไม่ได้เป็นผู้กระตุ้นหน้ากากอนามัยเอาไว้เพื่อหวังเก็งกำไรแน่นอน

ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ในพันธ์ยศยังได้กล่าวขอโทษกับประชาชนคนไทยทุกคนซึ่งระหว่างที่อยู่ในรายการโหนกระแสทั้งทนายรณรงค์และอาจารย์อ๊อดต่างก็ออกมาต่อว่านายพันธ์ยศกันมากมายว่าถ้าหากไม่กลับฝนหน้ากากอนามัยนำไปขายให้กับประเทศจีนทั้งโรงพยาบาลและประชาชนคนไทยทุกคนก็จะไม่ขาดแคลนหน้ากากอนามัยเหมือนที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้และเมื่อมีการสอบถามว่าหน้ากากอนามัย 200ล้าน ชิ้นที่นายบอยประกาศไว้นั้นอยู่ที่ไหนแต่ในพันธ์ยศยืนยันว่าตนเองไม่รู้ว่าหน้ากากอนามัยเรานั้นอยู่ไหนและยืนยันว่าตนเองไม่เกี่ยวกับหน้ากากอนามัยที่หายไปทั้งสิ้น

เม้าท์แรงสนามบินสุวรรณภูมิไม่มีที่คัดกรองเชื้อไวรัสโคโรน่า

Posted on 21 มีนาคม 202021 มีนาคม 2020Categories ข่าวที่น่าสนใจTags ,

ตอนนี้ข่าวที่แรงที่สุดในโลกโซเชียลของเราก็คือข่าวที่มีการระบุว่าที่สนามบินสุวรรณภูมิไม่มีจุดคัดกรองเชื้อไวรัสโคโรน่าอย่างที่รัฐมนตรีหรือรัฐบาลได้ออกมาประกาศไว้ว่ามีระบบคัดกรองที่ดีที่สุดอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิเพื่อคัดกลุ่มคนที่คาดว่าน่าจะติดเชื้อไวรัสโคโรน่าแล้วแยกตัวเพื่อนำไปส่งโรงพยาบาล

โดยคราวนี้เริ่มมาจากที่มีนักท่องเที่ยวที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศได้เข้ามาทำการโหลดข้อมูลลง Facebook ว่าตนเองเดินทางกลับมาจากประเทศที่เป็นกลุ่มเสี่ยงครั้งแรกที่เข้ามาถึงประเทศไทยคิดว่าอาจจะต้องเสียเวลาในการถูกตรวจคัดกรองหรือตรวจค้นเป็นระยะเวลานานแต่เมื่อมาถึงจริงๆกับไม่พบว่ามีการคัดกรองใดๆทั้งสิ้นเธอสามารถลงจากเครื่องบินและไปรับกระเป๋าและเดินทางออกนอกสนามบินได้เลยซึ่งข้อความเหล่านี้ได้มีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศเขียนสนับสนุนความคิดของเธอไว้ด้วยเนื่องจากว่าพวกเขาเองก็เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงเช่นเดียวกัน

โดยเมื่อมาถึงที่ประเทศไทยไม่มีจุดตรวจเอกสารใดๆทั้งสิ้นมีให้กรอกข้อมูลแค่ว่าเดินทางมาจากไหนมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงหรือไม่เท่านั้นเองซึ่งข้อมูลตรงนี้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติคิดว่าหากใครจะกรอกข้อมูลแบบไหนก็ย่อมทำได้อยู่แล้วทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้มีการมาตรวจพาสปอร์ตหรือมาตรวจอุณหภูมิร่างกายใดๆ

กับนักท่องเที่ยวทั้งสิ้นโดยเครื่องบินลำที่เขาเดินทางมามีนักท่องเที่ยวนั่งมา 300 กว่าคนซึ่งทุกคนไม่มีใครได้รับการตรวจเชื้อหาไวรัสโคโรน่าเลยสักคนเดียวซึ่งนั่นทำให้เห็นว่าการทำงานเกี่ยวกับการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรน่าของประเทศไทยไม่ได้มีการดำเนินการใดๆเหมือนที่เคยมีการกล่าวอ้างเลย

หลังจากที่มีข้อความนี้หลุดออกมาโลกโซเชียลก็พากันวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมากถึงการทำงานของสนามบินสุวรรณภูมิแต่ก็มีทางเจ้าหน้าที่ของสนามบินได้ออกมาบอกถึงวิธีการคัดกรองของที่สนามบินว่าจะใช้เป็นการตั้งอินฟราเรดไว้ที่ประตูทางเข้าซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวไม่ทราบว่าตนเองได้รับการตรวจหาเชื้อเรียบร้อยแล้วรวมถึง

ทางสนามบินสุวรรณภูมิได้มีการติดตั้งกล้อง CCTV ซึ่งกล้องนี้สามารถที่จะทำการตรวจภูมิร่างกายของมนุษย์ได้หากใครที่มีอุณหภูมิร่างกายสูงจะมีเจ้าหน้าที่เดินออกไปเพื่อนำตัวแยกออกมาหาซื้ออีกครั้งหนึ่งแต่ถ้าเกิดว่าใครที่อุณหภูมิร่างกายปกติก็จะผ่านออกไปยังด้านนอกสนามบินได้เลยโดยที่ทางนักท่องเที่ยวเองก็จะไม่ทราบว่าทางสนามบินมีการตรวจเรียบร้อยแล้วซึ่งตรงนี้เป็นการเพิ่มความสะดวกและรวดเร็วในการดำเนินงานของทางเจ้าหน้าที่สนามบินและไม่เป็นการเสียเวลาของนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวที่ประเทศไทยด้วย 

 

 

สนับสนุนโดย  rb88

ยินดีกราบเท้าขอขมาพ่อแม่น้องต่าย

Posted on 24 กุมภาพันธ์ 202022 กุมภาพันธ์ 2020Categories ข่าวเด็ดTags

พ่อนายเจลั่น. ยินดีกราบเท้าขอขมาพ่อแม่น้องต่ายสั่งห้ามลูกชายอย่าฆ่าตัวตายเพราะเสียศักดิ์ศรี

  จากกรณีที่มีการอดีตสามีได้เข้าไปยิงอดีตภรรยาในที่ทำงานที่เป็นสถานเสริมความงามอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นจูรี่แถวย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิจนเป็นเหตุให้ฝ่ายหญิงเสียชีวิตนั้นล่าสุดทางเจ้าที่ตำรวจได้จับตัวผู้ก่อเหตุได้แล้วซึ่งทราบชื่อว่านายเจด้วยนายเจได้ไปให้ปากคำกับตำรวจ ถึงสาเหตุที่ก่อคดีในครั้งนี้ว่าเกิดจากความหึงหวงที่แฟนสาวนอกใจไปมีผู้ชายคนอื่น

ซึ่งเค้าแค้นมากที่ภรรยาของเค้ามีชู้และพยายามตีตัวออกห่างจากเขาภายหลังจากที่นายเจถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไปค้างไว้ที่สน. นักข่าวก็ได้ไปขอสัมภาษณ์เพราะของในเจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ซึ่งทางคุณพ่อของนายเจได้ออกมาบอกว่าก่อนหน้านี้ในเจเคยเล่าให้ฟังว่าภรรยาของเค้านอกใจไปมีผู้ชายคนอื่นแต่เค้าเสียใจมากซึ่งพอก็ได้ตื่นเขาไปแล้วว่าให้ตัดใจจากผู้หญิงซะยังมีผู้หญิงคนอื่นอีกเยอะแยะแต่ในใจยืนยันว่าเค้ารักภรรยาของเค้ามากเค้าทำใจไม่ได้และเขายังบอกพ่ออีกว่าเค้าจะไปยิงผู้หญิงซึ่งพ่อก็เลยห้ามเขาว่าผู้หญิงมีเยอะแยะไม่ควรไปใส่ใจ

แต่ในใจก็ยังยืนยันว่าเค้ารักของเค้ามากและในวันเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณทุ่มกว่ากว่าในใจก็ได้เดินทางมาหาพ่อซึ่งนายเจได้กราบเท้าพ่อแล้วบอกพ่อว่านายเจไปยิงภรรยามาแล้วนายเจยังถามพ่อว่าต่ายเป็นยังไงบ้างเพราะพ่อบอกว่าตายตายแล้วในเจถึงกับปล่อยร้องไห้โฮ

ซึ่งนายเจก็ได้เอาแต่ร้องไห้และบอกว่าเค้าทำผิดไปแล้วเค้าไม่ได้ตั้งใจและเค้าเสียใจที่ยิงต่ายแต่นั้นเกิดจากเพราะว่าเค้ารักตายมากแล้วก็แขนมากเช่นกันในตอนแรกในเจบอกกับพ่อว่าเค้าจะฆ่าตัวตายซึ่งพ่อเป็นกังวลมากพ่อและแม่จึงพยายามเกลี้ยกล่อมนายเจไม่ให้ฆ่าตัวตายแต่ให้เลือกชดใช้กรรมด้วยกันติดคุกซึ่งภายหลังนายเจก็ยอมทำตาม

ทางด้านแม่จึงได้โทรเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาจับกุมนายเจซึ่งนายเจไม่ได้คิดหนีสวนที่ข่าวออกมาว่าเค้าจะไปหญิงชู้นั้นไม่เป็นความจริงเพราะพ่อได้คุยกับลูกชายแล้วบอกว่าจะจัดการกับเมียคนเดียวเท่านั้นซึ่งพ่อของนายเจได้พูดผ่านผู้สื่อข่าวว่าตนยินดีขอโทษแทนลูกและพร้อมที่จะกลับเท้าพ่อแม่ของน้องต่ายและตนเองก็รู้สึกเสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น