วิกฤติ กันทั้งประเทศ

Posted on 8 มีนาคม 20208 มีนาคม 2020Categories ข่าวที่น่าสนใจTags

วิกฤติ กันทั้งประเทศ ขนาดโรงพยาบาลศิริราช ยังมีหน้ากากอนามัยไม่พอใช้ ตอนนี้เหลือที่พอใช้ได้แค่เพียง 3 อาทิตย์เท่านั้น

           ปัจจุบันนี้หน้ากากอนามัยคือสิ่งที่จำเป็นที่ทุกคนในประเทศต้องการใช้เป็นอย่างมาก แต่กลับขาดแคลนไม่สามารถหาซื้อหน้ากากอนามัยใช้ได้ ซึ่งทางโรงพยาบาลหลายแห่งได้ออกมายอมรับกันแล้วว่า ที่โรงพยาบาล ทั้งแพทย์และพยาบาลต้องการต้องใช้หน้ากากอนามัยกันอย่างประหยัด วันหนึ่งจะใช้ได้เพียงแค่แผ่นเดียวเท่านั้น

ซึ่งบางโรงพยาบาลต้องเอาของเก่าที่ใช้เมื่อวานกลับมาใช้ใหม่กันแล้วเพราะไม่สามารถที่จะหาซื้อหน้ากากอนามัยได้เลย โดยล่าสุดทางโรงพยาบาลศิริราชเองก็เช่นเดียวกัน กำลังประสบกับปัญหาหน้ากากอนามัยไม่พอใช้ ซึ่งปัจจุบันคุณหมอและพยาบาลต้องใช้หน้ากากอนามัยกันคนและแค่ หนึ่งแผ่นเท่านั้น

และยังให้ใส่ได้เฉพาะคนที่ต้องทำงานใกล้ชิดกับคนไข้เท่านั้นด้วย หากใครทำงานที่ไม่ได้เจอกับคนไข้ก็จะไม่สามารถใช้หน้ากากอนามัยได้ ซึ้งเป็นอันตรายต่อบุคลากรทีทำงานที่โรงพยาบาลเป็นอย่างมาก เพราะคนเหล่านี้ล้วนอยู่ในพื้นที่ของโรงพยาบาลซึ่งปกติคนก็เยอะและเชื้อโรคก็เยอะอยู่แล้ว ยังต้องมาเสี่ยงอันตรายเพราะหน้ากากอนามัยคลาดแคลนแบบนี้อีก

ทางโรงพยาบาลศิริราช ออกมาเปิดเผยว่าตอนนี้ทางโรงพยาบาลมีหน้ากากอนามัยที่ใช้งานได้เหลือไม่เกิน 3 อาทิตย์เท่านั้นซึ่งตอนนี้ ยังต้องให้ทั้งหมอและพยาบาลช่วยกันประหยัดในการใช้หน้ากากอนามัยกันไปก่อนเพราะยังไม่สามารถหาซื้อหน้ากากอนามัยได้เลย 

            สำหรับการขาดแคลนหน้ากากอนามัยนี้ไม่ควรจะเกิดขึ้นด้วยซ้ำ เพราะที่ประเทศไทยมีโรงงานที่ผลิตหน้ากากอนามัยขาย สามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้ แต่ทำไมประเทศไทยถึงยังขาดแคลนหน้ากากอนามัยกันอีก เป็นเรื่องทีน่าคิดว่าจะมีการสั่งกักตุนหน้ากากอนามัยจากคนใหญ่คนโตที่ไหนหรือไม่ เพราะมีข่าวหลายกระแสมากที่ถูกระบุออกมาว่ามีการผลิตหน้ากากอนามัยจากทางโรงงานทุกวัน แต่หน้ากากอนามัยไม่สามารถนำออกมาจำหน่ายได้

เพราะมีคนมายืนเฝ้าที่หน้าโรงงานที่ผลิตหน้ากากอนามัยทุกที่ไม่ให้ขนของออกนอกโรงงาน  ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะเป็นเรื่องจริงซะด้วย เพราะไม่เช่นนั้นแล้วหน้ากากอนามัยจะหายไปไหนได้ เพราะประเทศไทยมีโรงงานที่ผลิตหน้ากากอนามัยขายหลายแห่ง หากมีการผลิตก็ต้องมีขายแล้วแต่ตอนนี้ร้านค้าที่ไหนก็ไม่มีขาย โดยอ้างว่าขาดแคลนหน้ากากอนามัย

แต่ในช่วงนี้ทางรัฐบาลกลับมีหน้ากากอนามัยมาแจกให้กับประชาชนคนละนิดละหน่อย ซึ่งอยากรู้ว่ารัฐบาลไปหาหน้ากากอนามัยจากที่ไหนมาแจกให้กับประชาชน ทั้งที่ทั่วทั้งประเทศหาซื้อหน้ากากอนามัยไม่ได้กันอยู่แบบนี้ เรื่องนี้คงต้องรอดูกันไปนานนานว่าความจริงคืออะไร

 

สนับสนุนโดย  nowbet

โจรสาวปีนฝ้าขโมยของในบ้านทาวน์เฮาส์

Posted on 4 มีนาคม 20204 มีนาคม 2020Categories ข่าวทั่วไปTags

 มีรายงานข่าวเข้ามาว่าในหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่อยู่ในซอยวัดลาดปลาเค้า

ได้เกิดเหตุการณ์มีโจรออกอาละวาดแอบปีนขึ้นไปบนเพดานฝ้าแล้วเข้าไปขโมยของ ซึ่งจากการตรวจสอบแล้วพบว่าขโมยคนดังกล่าวก็เป็นคนในหมู่บ้านนั้นนั่งเองโดยหมู่บ้านที่เกิดเหตุนี้เป็นบ้านแบบทาวน์เฮาส์ สองชั้นโดยตามรายงานข่าวแจ้งว่ามีหญิงสาวอายุราวราว 15 ปีถูกแทงจากอาวุธมีดตรงบริเวณลำคอ สาเหตุเนื่องมาจาก มีขโมยขึ้นมาบนบ้านของเธอ ซึ่งเธอเจอกับขโมยที่บนชั้นสองของบ้าน โดยในตอนแรกเธอไม่รู้ว่านี่คือขโมย เพราะเธอเองก็เคยเห็นหน้าขโมย

คนดังกล่าวเพราะเป็นหญิงสาวที่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน โดยเธอเล่าว่าเธอขึ้นไปบนชั้นสองของบ้านแล้วก็พบกับขโมยยีนอยู่บนชั้นสองเธอจึงถามว่าขึ้นมาได้อย่างไร มาหาใคร ซึ่งขโมยได้ถามเธอว่าพี่สาวอยู่ไหม เธอจึงคิดว่าขโมยคนดังกล่าวน่าจะมาหาพี่สาว เธอจึงเตรียมตัวจะไปตามพี่มาให้ แต่พอหันหลังขโมยก็เอามีดแทงที่คอของเธอแล้วปีนขึ้นหลังคาฝ้าหลบหนีไป ในขณะที่มีบ้านอีกหลังหนึ่งที่อยู่บ้านติดกันบอกว่า ตนเองและคนในครอบครัวไม่อยู่บ้าน

แต่พอกลับมาถึงบ้านพบว่าข้าวของภายในบ้านถูกรื้อค้นและสร้อยคอทองคำได้หายไปหลายเส้น ซึ่งเธอได้ตรวจสอบดูตามบ้านแล้วไม่พบร่องรอยการงัดแงะใดใดจึงทำให้เข้าใจว่าขโมยน่าจะปีนมาจากทางฝ้าบนหลังคาและเมื่อไปดูที่หลังคาตู้เสื้อผ้าก็พบร่องรอยของรอยมือและรอยเท้าของขโมย ซึ่งวันที่เกิดเรื่องตรงกับวันที่เด็กสาวอายุ 15 ปีถูกแทงที่คอพอดีจึงเข้าใจว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนคนเดียวกัน อาจจะไปก่อเหตุที่บ้านสาวอายุ 15 ปีก่อนแล้ว

พอกำลังจะกลับมาอาจจะมาเห็นว่ามีทางลง สามารถลงมาได้ง่ายจึงได้ลงมาก่อเหตุดังกล่าวขึ้น และยังมีบ้านอีกหลังหนึ่งที่อยู่ติดกันแต่บ้านนี้มีร่องรอยการงัดแงะตรงประตูหน้าบ้านโดยมีการตัดมุ้งลวดและงัดประตูเข้าไปในบ้านรวมถึงที่ฝ้าเพดานมีร่องรอยพังเสียหาย ซึ่งคาดว่าคนร้ายคงจะตกลงมาจากฝ้าแล้วจึงงัดเข้าบ้านเพื่อจะได้ปีนกลับขึ้นฝ้า

เพื่อกลับไปที่บ้านของคนร้ายโดยสาว 15 ปีบอกว่าคนร้ายชื่อนางสาว เอ๋ เพราะจำหน้าได้ ซึ่งขณะนี้มีคนเห็นนางสาวเอ๋เดินทางออกจากหมู่บ้านและเดินทางไปรับลูกที่โรงเรียนและหายตัวไปแล้ว ส่วนสามีของนางสาวเอ๋ เมื่อทราบเรื่องก็รู้สึกตกใจที่ภรรยาตัวเองก่อเหตุขโมยของเพื่อนบ้านทำให้เพียงแค่เดินไปขอโทษเพื่อบ้านต่อสิ่งที่ภรรยาตัวเองทำ

 

ขอบคุณ sagame  ที่ให้เรื่องราวดีๆมานำเสนอ

การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

Posted on 26 กุมภาพันธ์ 202022 กุมภาพันธ์ 2020Categories ประเด็นข่าวTags

 แนะเลี่ยงไปพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคไวรัสโควิด-19หากอยากไปเที่ยวเกาหลี

มีประกาศเตือนออกมาจากสถานทูตของเกาหลีซึ่งได้ออกมาประกาศเตือนนักท่องเที่ยวชาวไทยที่จะเดินทางไปเที่ยวยังประเทศเกาหลีใต้ซึ่งหากถ้าใครไปเที่ยวเกาหลีช่วงนี้คุณพยายามหลีกเลี่ยงการเดินทางไปในสถานที่ที่มีรายชื่อว่าพบการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งในขณะนี้ปลุกว่าที่ประเทศเกาหลีใต้มีจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสชนิดนี้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

จะกรณีที่ตอนนี้ทั่วโลกกำลังเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสซึ่งในโซนเอเซียเองก็มีหลายประเทศด้วยกัน มีรายงานข่าวเข้ามาว่า Facebook ของสถานทูต ณ กรุงโซลประเทศเกาหลีใต้ได้มีการมาโพสต์ข้อความเตือนนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ต้องการจะเดินทางไปเที่ยวที่ประเทศเกาหลีใต้โดยมีการเขียนข้อความแจ้งเข้ามาว่าในขณะนี้ที่ประเทศเกาหลีใต้มีการประกาศเตือนเกี่ยวกับการแพทยระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 รวมถึงยังมีการแพร่ระบาดเกี่ยวกับโรคปอดอักเสบ

ซึ่งการติดเชื้อเป็นโรคปอดอักเสบนี้ก็มีผลพวงมาจากการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าเช่นเดียวกัน

โดยมีรายการข่าวแจ้งเข้ามาว่าที่ประเทศเกาหลีใต้มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าโดยจากสถิติข้อมูลที่ได้รับมามีการระบุว่าแค่เพียงสัปดาห์เดียวเท่านั้นก็ตรวจพบว่ามีชาวเกาหลีใต้จำนวน 156 คนที่ได้ติดเชื่อไวรัสโคโรน่าเรียบร้อยแล้วซึ่งพื้นที่ที่มีการแพทยระบาดมากที่สุดก็คือเมืองแทกูและยังมีพื้นที่โดยรอบของจังหวัดคยองซังเหนือที่ตรวจพบว่ามีผู้ติดเชื้อไวรัสชนิดนี้รวมทั้งสิ้น 111 คนนี่คือข้อมูลล่าสุดจนถึงวันที่ 21 กุมภาพันธ์ปีพ.ศ. 2563

ซึ่งทางการสถานทูตเกาหลีได้เล็งเห็นแล้วว่าทางเกาหลีใต้ยังไม่สามารถที่จะทำการควบคุมไม่ให้เชื่อไวรัสนี้แพร่ระบาดได้ดังนั้นจึงได้ประกาศเตือนคนไทยที่จะไปท่องเที่ยวที่ประเทศเกาหลีใต้ในช่วงนี้ให้พยายามหลีกเลี่ยงสองเมืองที่กล่าวมาทั้งต้นเนื่องจากว่าทั้งสองเมืองนี้กำลังเป็นจุดที่มีการแพร่ระบาดมากที่สุดของประเทศเกาหลีใต้ในช่วงนี้

และถ้าหากนักท่องเที่ยวคนไหนที่ยังต้องการไปเที่ยวที่ประเทศเกาหลีใต้ช่วงนี้ก็ให้พยายามหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมนี้จุดที่มีคนมาชุมนุมร่วมกันเป็นจำนวนมากและควรระวังในเรื่องของการรักษาสุขภาพของตนเองโดยให้สวมใส่หน้ากากอนามัยรวมถึงให้ทำความสะอาดมือบ่อยบ่อยและหาต้องรับประทานอาหารควรจะมีช้อนกลางเพื่อเป็นการดูแลตัวเองป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าแต่ในทางที่ดีแล้วในช่วงนี้ไม่ควรเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศจะเป็นการดีที่สุดเอาไว้สามารถควบคุมไวรัสได้แล้วค่อยไปเที่ยวก็ยังไม่สาย       

กระแสไวรัสโควิด-19 ระบาดหนักในโซนเอเชีย

Posted on 25 กุมภาพันธ์ 202022 กุมภาพันธ์ 2020Categories รวมข่าวเด่นTags

สาวลูกครึ่งเอเชียถูกสายการบินเหยียดแรงเหตุเพราะกระแสไวรัสโควิด-19 ระบาดหนักในโซนเอเชีย

     หญิงอเมริกันลูกครึ่งเวียดนามได้ออกมาโพสต์ระบายพร้อมทั้งเตือนคนเอเชียว่าให้ระวังชาวอเมริกันรังเกียจเนื่องจากเหตุผลว่ากลัวการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าโดยเธอเล่าให้ฟังทำน้ำตาว่าสายการบินได้พาเธอไปตรวจแยกจากคนอื่นแถมยังแสดงกริยาที่ไม่ดีใส่เธออย่างมากรวมถึงพนักงานบนเครื่องบินก็ทำกับเธออย่างหยาบคายจนเธอถึงกับต้องร้องไห้ออกมาเลยทีเดียว

     ตอนนี้ปัญหาเกี่ยวกับการระบาดของไวรัสโคิว-19 กำลังทำให้ทุกคนทั้งโลกเกิดความวิตกกังวลและหวาดกลัวเป็นอย่างมากเนื่องจากตอนนี้ในหลายประเทศมีจำนวนผู้ที่ติดเชื้อไวรัสชนิดนี้กันเป็นจำนวนมากและยังมีแนวโน้มว่าจะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเรื่อยเรื่อยโดยแต่ละประเทศยังไม่สามารถที่จะแก้ไขปัญหาตรงนี้ได้

และท่ามกลางกระแสการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่านี้ก็ทำให้ชาวต่างชาติที่ไม่ใช่คนในโซนเอเซียต่างก็พากันรังเกียจคนจีนซึ่งหากใครก็ตามที่มีหน้าตาเหมือนกับคนประเทศจีนหรือแม้แต่คนในแถบเอเชียก็มักจะถูกคนต่างชาติดูถูกและทำร้ายและกระทำการหยาบคายใส่โดยที่คนเหล่านั้นไม่ได้ทำผิดอะไรเลย

     มีรายงานข่าวก็มาว่าได้มีหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งเธอเป็นลูกครึ่งระหว่างอเมริกันและเวียดนาม

แต่ด้วยที่หน้าตาของเธอมีแนวโน้มไปทางคนเอเชียมากกว่าอเมริกันจึงทำให้เธอต้องได้พบเจอกับความเจ็บปวดจนเธอ ออกมาแชร์และเล่าเรื่องราวที่เธอประสบมาให้กับคนอื่นได้ทราบโดยเธอได้มีการเขียนเล่าว่าในวันวาเลนไทน์เธอต้องเดินทางจากอเมริกาไปที่ประเทศเม็กซิโกซึ่งปกติแล้วเธอมักจะเดินทางแบบนี้เป็นประจำอยู่แล้ว

โดยในวันดังกล่าวเมื่อเธอเดินทางไปถึงเจ้าหน้าที่ได้มองตรงมาที่เธอ และเองถามว่าเธอไปจีนมาหรือเปล่าซึ่งเธอเองก็ได้ปฏิเสธไปแต่พนักงานทั้งสองคนที่สอบถามเธอต่างก็พากันซุบซิบเกี่ยวกับตัวเธอและพยายามดูพาสปอร์ตของเธออย่างละเอียดและเมื่อเธอต้องขึ้นเครื่องบินผู้โดยสารบนสายการบินก็ได้ชี้มาที่เธอว่าให้เจ้าหน้าที่บนเครื่องบินตรวจเธอละเอียดก่อน

โดยพนักงานบนเครื่องบินก็ไลค์ให้เธอไปยืนไกลๆหลังจากนั้นก็มาพาเธอไปทำการตรวจค้นทั้งตัวและกระเป๋าอีกครั้งซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้เจ้าหน้าที่บนเครื่องบินได้กระทำการหยาบคายกับเธอมากด้วยการกระชากกระเป๋าเธอไปและเมื่อเธอขึ้นเครื่องบินไม่ได้เธอก็พบว่าตรงที่นั่งของเธอมีคนอื่นมานั่งแล้ว

และมือถือแจ้งกับพนักงานบนเครื่องบินพวกเขาก็ไลค์ให้เธอไปนั่งตรงจุดที่ไม่มีใครนั่งซึ่งเธอก็ไม่ได้ว่าอะไรแต่เมื่อถึงเวลาที่พนักงานจะต้องรู้สึกของกินเธอได้ขอน้ำกับพนักงานที่ให้บริการบนเครื่องบินทางพนักงานกลับโยนขวดน้ำให้เธอแทนที่จะบริการเธอเหมือนกับลูกค้าคนอื่นๆทำให้เธอเสียใจมากเพราะนอกจากเรื่องนี้แล้วเธอจึงถูกก็ทำไม่ดีด้วยอีกหลายอย่าง                          

ยินดีกราบเท้าขอขมาพ่อแม่น้องต่าย

Posted on 24 กุมภาพันธ์ 202022 กุมภาพันธ์ 2020Categories ข่าวเด็ดTags

พ่อนายเจลั่น. ยินดีกราบเท้าขอขมาพ่อแม่น้องต่ายสั่งห้ามลูกชายอย่าฆ่าตัวตายเพราะเสียศักดิ์ศรี

  จากกรณีที่มีการอดีตสามีได้เข้าไปยิงอดีตภรรยาในที่ทำงานที่เป็นสถานเสริมความงามอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นจูรี่แถวย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิจนเป็นเหตุให้ฝ่ายหญิงเสียชีวิตนั้นล่าสุดทางเจ้าที่ตำรวจได้จับตัวผู้ก่อเหตุได้แล้วซึ่งทราบชื่อว่านายเจด้วยนายเจได้ไปให้ปากคำกับตำรวจ ถึงสาเหตุที่ก่อคดีในครั้งนี้ว่าเกิดจากความหึงหวงที่แฟนสาวนอกใจไปมีผู้ชายคนอื่น

ซึ่งเค้าแค้นมากที่ภรรยาของเค้ามีชู้และพยายามตีตัวออกห่างจากเขาภายหลังจากที่นายเจถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไปค้างไว้ที่สน. นักข่าวก็ได้ไปขอสัมภาษณ์เพราะของในเจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ซึ่งทางคุณพ่อของนายเจได้ออกมาบอกว่าก่อนหน้านี้ในเจเคยเล่าให้ฟังว่าภรรยาของเค้านอกใจไปมีผู้ชายคนอื่นแต่เค้าเสียใจมากซึ่งพอก็ได้ตื่นเขาไปแล้วว่าให้ตัดใจจากผู้หญิงซะยังมีผู้หญิงคนอื่นอีกเยอะแยะแต่ในใจยืนยันว่าเค้ารักภรรยาของเค้ามากเค้าทำใจไม่ได้และเขายังบอกพ่ออีกว่าเค้าจะไปยิงผู้หญิงซึ่งพ่อก็เลยห้ามเขาว่าผู้หญิงมีเยอะแยะไม่ควรไปใส่ใจ

แต่ในใจก็ยังยืนยันว่าเค้ารักของเค้ามากและในวันเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณทุ่มกว่ากว่าในใจก็ได้เดินทางมาหาพ่อซึ่งนายเจได้กราบเท้าพ่อแล้วบอกพ่อว่านายเจไปยิงภรรยามาแล้วนายเจยังถามพ่อว่าต่ายเป็นยังไงบ้างเพราะพ่อบอกว่าตายตายแล้วในเจถึงกับปล่อยร้องไห้โฮ

ซึ่งนายเจก็ได้เอาแต่ร้องไห้และบอกว่าเค้าทำผิดไปแล้วเค้าไม่ได้ตั้งใจและเค้าเสียใจที่ยิงต่ายแต่นั้นเกิดจากเพราะว่าเค้ารักตายมากแล้วก็แขนมากเช่นกันในตอนแรกในเจบอกกับพ่อว่าเค้าจะฆ่าตัวตายซึ่งพ่อเป็นกังวลมากพ่อและแม่จึงพยายามเกลี้ยกล่อมนายเจไม่ให้ฆ่าตัวตายแต่ให้เลือกชดใช้กรรมด้วยกันติดคุกซึ่งภายหลังนายเจก็ยอมทำตาม

ทางด้านแม่จึงได้โทรเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาจับกุมนายเจซึ่งนายเจไม่ได้คิดหนีสวนที่ข่าวออกมาว่าเค้าจะไปหญิงชู้นั้นไม่เป็นความจริงเพราะพ่อได้คุยกับลูกชายแล้วบอกว่าจะจัดการกับเมียคนเดียวเท่านั้นซึ่งพ่อของนายเจได้พูดผ่านผู้สื่อข่าวว่าตนยินดีขอโทษแทนลูกและพร้อมที่จะกลับเท้าพ่อแม่ของน้องต่ายและตนเองก็รู้สึกเสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

รับแจ้งเหตุว่ามีกันฆ่ากันตาย

Posted on 23 กุมภาพันธ์ 202022 กุมภาพันธ์ 2020Categories ข่าวเด่นวันนี้Tags

น้อยใจหญิงหม้ายไม่ยอมมีเซ็กส์ด้วยหนุ่มป่วยเบาหวานกระหน่ำยิงจนเสียชีวิต

   มีเหตุฆาตกรรมเกิดขึ้นที่บ้านหลังหนึ่งพบผู้ก่อเหตุเป็นชายอายุ 52 ปีก่อเหตุยิงสาวม่ายตายคาปีโดยให้เหตุผลที่ทำไปเพราะว่าหึงหวงเนื่องจากตนเองเป็นแฟนกับหญิงหม้ายคนดังกล่าวแต่เธอกับคิดตีตัวออกห่างจะหนีไปแต่งงานกับชายคนอื่นเพียงเพราะว่าเขาไม่สามารถมีเซ็กส์กับเธอได้เนื่องจากป่วยเป็นโรคเบาหวาน        

ที่จังหวัดบุรีรัมย์เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุว่ามีกันฆ่ากันตายเกิดขึ้นที่บ้านหลังหนึ่งซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปถึงก็พบผู้ก่อเหตุชื่อนายคงกำลังยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาวุธปืนแก๊บหนึ่งกระบอกที่อยู่ในมือ

โดยผู้ก่อเหตุได้บอกกับเจ้าที่ตำรวจว่าตนเองเป็นคนยิงนางสาวตรี จนเสียชีวิตเองเนื่องจากว่าต้นและนางสาวตรีได้แอบคบเป็นแฟนกันแต่ว่านางสาวตรีกับเริ่มคิดติดตัวออกห่างซึ่งตนได้ข่าวว่านางสาวตรีกำลังจะไปแต่งงานกับชายคนอื่นทำให้ตนรู้สึกไม่พอใจจนมาก่อเหตุยิงนางสาวตรีที่กำลังนอนหลับอยู่ในเปลภายในบ้านพักจนถึงแก่ความตาย    

จากรายงานข่าวแจ้งเข้ามาว่าในกลุ่มมีอาชีพรับจ้างทั่วไปและมักจะเดินทางมาพูดคุยกับนางสาวตรีอยู่ตลอดเป็นระยะเวลาหลายปีมาแล้วตั้งแต่สามีของนางสาวตรีเสียชีวิตไปซึ่งชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณนั้นต่างก็รู้กันดีแต่ไม่มีใครรู้ว่าทั้งสองคนแอบคบหากันส่วนใหญ่มองว่านายคมมาแอบลงรักนางสาวตรีและนางสาวตรีเห็นแค่ไหนคงเป็นเพื่อนเท่านั้น

ไม่ได้คิดว่าทั้งสองคนจะแอบคบหากันโดยนายคมได้ให้การกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ตลอดระยะเวลาที่คบกันมาสี่ห้าปีตนเองดูแลนางสาวตรีมาตลอดทั้งช่วยทำงานและหาเงินมาให้ใช้ซึ่งต่อมาในช่วงหลังหลังนายคมสังเกตุเห็นว่านางสาวตรีมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปโดยมักจะแอพนี้ไปคุยโทรศัพท์คนเดียว

ซึ่งภายหลังตนได้ยินชาวบ้านคุยกันว่านางสาวตรีกำลังคบหากับผู้ชายต่างหมู่บ้านและยังมีการลือกันอีกว่าฝ่ายชายกำลังจะมาสู่ขอนางสาวตรีแต่งงานซึ่งเมื่อตนได้ไปสอบถามกับนางสาวตรีเธอก็ยอมรับว่าเธอจะแต่งงานใหม่ทำให้ตนรู้สึกเสียใจมาก โดยนายคม ได้กล่าวว่าที่นางสาวตรีจะไปแต่งงานใหม่นั้นเพราะตนไม่สามารถมีเซ็กส์กับนางสาวตรีได้เนื่องจากปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพของตัวนายคมเองและเมื่อรักมากก็แค้นมากนายคมจึงตัดสินใจนำปืนมายิงนางสาวตรีจนเสียชีวิตและรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งนายคงบอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าปืนที่นำมาหญิงนั้นไม่รู้ว่าเป็นของใครเพราะเห็นวางอยู่ใกล้กับยุ้งข้าวก็เลยหยิบมา

หนุ่มไม่พอใจเข้าไปร้านนวดแล้วพนักงานไม่ยอมนวดน้องชายให้ 

Posted on 22 กุมภาพันธ์ 2020Categories ข่าวที่น่าสนใจTags

       เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับการแจ้งความจากเจ้าของร้านนวดแผนโบราณ

ให้ดำเนินคดีกับชายคนหนึ่งที่ชื่อว่านายป๋อง ซึ่งชายหนุ่มคนนี้ได้เดินทางไปที่ร้านนวดแผนโบราณ เพื่อให้พนักงานนวดให้ซึ่งนอกจากนวดตามร่างกายแล้ว นายป๋องยังต้องการให้นวดกระปู๋ของตัวเองด้วย แต่พนักงานร้านไม่ยอมทำให้ 

        ข่าวนี้เกิดจากทางร้านออกมาแชร์ลูกค้ารายหนึ่งที่ไปที่ร้านเพื่อนวดคลายเมื่อยแต่กลับแจ้งให้พนักงานช่วยนวดกระปู๋ให้ซึ่งพนักงานร้านไม่ยอมทำให้เพราะร้านเปิดมาเพื่อนวดจับเส้นสำหรับคนที่ปวดเมื่อยเนื้อตัวเท่านั้นไม่ได้เปิดร้านอย่างอื่น ซึ่งทางร้านได้มีการนำคลิปวีดิโอไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ

โดยภายในคลิปจะเห็นชายที่เข้าไปใช้บริการกำลังทะเลาะกับพนักงานนวดสาว ซึ่งชายคนดังกล่าวไม่พอใจกับการบริการของพนักงานที่ไม่ยอมนวดกระปู๋ให้เขา ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นที่ อำเภอเสม็ด  ซึ่งทางร้านได้ออกมาบอกว่าที่ร้านเปิดกิจการนวดแผนโบราณ ซึ่งลูกค้าที่เข้าไปใช้บริการจะสามารถใส่กางเกงในหรือจะถอดกางเกงในให้นวดก็ได้

แต่ทางร้านก็จะมีกฎว่าจะไม่ไปยุ่งเกี่ยวตรงกระปู๋ของลูกค้าเด็ดขาด ซึ่งในวันเกิดเหตุนายป๋องได้เข้ามาใช้บริการและถอดกางเกงใน ซึ่งพนักงานก็นวดตามร่างกายให้ปกติ แต่พอนวดมาใกล้กับกระปู๋ของนายป๋อง นายป๋องกลับบอกให้พนักงานนวดกระปู๋ให้หน่อย โดยบอกให้พนักงานช่วยสำเร็จความใคร่ให้หน่อยแต่พนักงานปฏิเสธ

ไม่ยอมทำให้ ทำให้นายป๋องไม่พอใจ และได้บอกกับพนักงานว่างั้นไม่นวดแล้ว หลังจากนั้นนายป๋องก็ลงไปข้างล่างแล้วต่อว่าเจ้าของร้าน และได้พูดจาข่มขู่กับพนักงานว่าตนเองมีพี่ชายเป็นนายตำรวจยศใหญ่ในจังหวัดชลบุรี เดี๋ยวจะให้ตำรวจมาปิดร้านนี้เลยและในขณะเดียวกันนายป๋องก็มีการนำปืนออกมาข่มขู่พนักงานของร้านด้วย

ทำให้พนักงานเกิดความเกรงกลัว จึงได้นำคลิปจากกล้องวงจรปิดภายในร้านมาเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจ เพราะทุกคนภายในร้านนวดเกิดความรู้สึกไม่ปลอดภัย ซึ่งเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการรับแจ้งความเอาไว้แล้วและจะมีการดำเนินการเชิญตัวนายป๋อง มาพูดคุยและทำความเข้าใจเกี่ยวกับการนวดน้ำมันนั้นกับการนวดกระปุ๋นั้นมันคนละอย่างกัน

ซึ่งหากนายป๋องยากให้นวดกระปู๋ควรไปร้านอื่นที่ไม่ใช่ร้านนี้ เพราะร้านนี้จะมีการติดป้ายเอาไว้อย่างชัดเจนแล้วว่าไม่มีบริการค้าประเวณี ส่วนถ้านายป๋องอยากใช้บริการนวดกระปู๋ก็มีร้านอื่นที่เปิดให้บริการ ซึ่งนายป๋องสามารถไปใช้บริการที่ร้านเหล่านั้นได้

ข่าวพบศพหญิงสาววัยรุ่นเสียชีวิตในห้อง

Posted on 20 กุมภาพันธ์ 202020 กุมภาพันธ์ 2020Categories ข่าวเด่นTags

ข่าวพบศพหญิงสาววัยรุ่นเสียชีวิตในห้องน้ำคาดตกเลือดจาการใช้ยาขับเลือด

    เกิดเหตุสะเทือนใจต่อคนที่พบเห็นเป็นอย่างมากกับภาพหญิงวัยรุ่นคนหนึ่งเสียชีวิตคาห้องน้ำในห้องพักของตนเองใกล้กันกับศพพบศพเด็กทารกนอนเสียชีวิตอยู่ข้างข้างโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิฐานว่าเสียชีวิตจาการตกเลือด

    ซึ่งเหตุการณ์นี้ครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากเจ้าของหอพักว่ามีคนพบศพหญิงสาววัยรุ่นคนหนึ่งอายุราวราว 19 ปีถูกพบเสียชีวิตที่ห้องน้ำของห้องพักของตัวเองในสภาพที่เลือดเต็มตัวและใกล้กันนั้นยังมีศพเด็กทารกเพิ่งคลอดแต่สภาพเนื้อตัวนั้นสะอาดสะอ้านซึ่งมีการคาดการณ์กันว่าผู้ตายคงจะมีการตั้งท้องแล้วได้กินยาขับเลือดเพื่อที่ต้องการจะเอาเด็กออก

แต่เกิดอาการตกเลือดจนเสียชีวิต ซึ่งมีการคาดการณ์กันว่าก่อนที่หญิงวัยรุ่นคนดังกล่าวจะเสียชีวิตเธอได้พยายามอุ้มเอาทารกไปล้างตัวในห้องน้ำ จากเหตุการณ์นี้ครั้งนี้ผู้ที่พบศพเธอคนแรกคือเพื่อนร่วมชั้นเรียนของเธอ โดยหญิงสาวคนที่มาพบศพคนแรกให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เธอและเพื่อนเพื่อนทุกคนไม่เคยมีใครรู้เลยว่าผู้เสียชีวิตต้องท้องแต่ก็พากันสังเกตเห็นเหมือนกันว่าผู้ตายตัวอ้วนขึ้น

และมักจะใส่เสื้อตัวใหญ่ใหญ่ ซึ่งเคยสอบถามกับผู้ตายเหมือนกัน แต่ผู้ตายบอกว่าอ้วนขึ้นเท่านั้นและทุกคนก็ไม่ได้สงสัยอะไร เพราะทุกคนไม่ทราบว่าผู้ตายมีแฟนหรือไม่และที่มาพบศพในวันนี้เพราะ วันนี้มีเรียนแต่ไม่เห็นผู้ตายไปเรียนหนังสือจึงได้โทรหาแต่ผู้ตายก็ไม่รับสายจึงได้เดินทางมาหาที่หอพัก

ในตอนแรกได้ไปเคาะห้องพัก แต่ไม่มีใครมาเปิดประตู ตนเองจึงได้เดินอ้อมมาด้านหลังเพื่อชะโงกดูตรงระเบียง ซึ่งสามารถมองเห็นได้ว่าห้องน้ำเปิดอยู่แล้วเห็นเพื่อนนอนอยู่ที่พื้นมีเลือดเต็มไปหมดจึงได้โทรไปหาเจ้าของหอพักให้ช่วยเข้ามาไขกุญแจห้องให้และได้โทรแจ้งความกับตำรวจ

ซึ่งเมื่อเปิดประตูห้องพักเข้ามาก็เห็นว่าเพื่อนนอนเสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งจากการสันนิฐานคาดว่าผู้ตายเสียชีวิตมาหลายชั่วโมงแล้ว และเมื่อมีการสอบปากคำคนข้างห้องที่อยู่ติดกับห้องผู้ตายต่างก็บอกว่าช่วงเวลาประมาณตีสี่ได้ยินเสียงของผู้ตายร้องเหมือนเจ็บปวดสักอย่างแต่ได้ยินเสียงร้องไม่นานเสียงก็เงียบไปทุกคนจึงไม่ได้สนใจ

เพราะไม่คิดว่าจะมีเหตุร้ายเกิดขึ้น ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าผู้ตายน่าจะเสียชีวิตในช่วงราวราวตีสี่กว่ากว่า เพราะเสียเลือดมากโดยคาดว่าผู้ตายน่าจะกินยาขับเลือดเพราะในถังขยะของผู้ตายพบยาขับเลือดหลายขนิด

ข่าว…หนุ่มบ้าระห่ำ !

Posted on 20 กุมภาพันธ์ 202019 กุมภาพันธ์ 2020Categories ข่าวทั่วไปTags

หนุ่มบ้าระห่ำ ! บุกกราดยิงที่บ้านแฟนเก่าแถมยังฉุดแฟนเก่าขึ้นรถไปด้วย

           มีรายงานข่าวแจ้งเข้ามาว่ามีบ้านของชาวบ้านหลังหนึ่งซึ่งบ้านหลังดังกล่าวได้เปิดเป็นอู่ซ่อมรถ เกิดเหตุมีคนบุกมายิงกราดที่ร้านพร้อมกันนั้นก็ได้มีคนร้ายจำนวน  2 คนลงรถมาฉุดแฟนของเจ้าของร้านซ่อมรถแล้วพาขึ้นรถกระบะก่อนพากันหลบหนีไป ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นที่จังหวัดนครปฐม และเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปถึงสถานที่เกิดเหตุก็พบกับเจ้าของบ้านเป็นชายหนุ่มอายุประมาณ  36 ปี

โดยทางชายหนุ่มได้เล่าให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจฟังว่า เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมาตนเองและแฟนสาวได้อยู่ในบ้านพัก ซึ่งได้ยินเสียงเหมือนมีคนยิงเข้ามาในบ้านพักจึงได้พากันหาที่หลบกระสุน และเมื่อเสียงปืนเงียบเสียงลงก็พบว่ามีคนร้ายจำนวน  2 คนได้ก้าวลงมาจากรถกระบะ

แล้วหนึ่งในคนร้ายได้เดินตรงมาที่แฟนสาวของตนเองก่อนที่จะดึงแฟนสาวของตนขึ้นรถกระบะและขับออกไป ซึ่งตนไม่สามารถช่วยเหลือได้เพราะกลัวจะถูกยิง และเขายังให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ว่าผู้ที่ก่อเหตุหนึ่งในสองคนร้ายนั้นเขาจำได้ว่าเป็นอดีตแฟนของแฟนของเขานั่นเอง ซึ่งแฟนของเขาได้เลิกรากับชายคนดังกล่าวมาได้สักระยะแล้ว และก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยเห็นว่าอดีตแฟนของแฟนเขาจะยุ่งวุ่นวายอะไร

จนมาเมื่อเช้านี้ที่บุกเข้ามา ซึ่งตอนนี้เขาไม่สามารถติดต่อกับแฟนสาวได้เลย

จึงต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจให้การช่วยเหลือ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าทีตำรวจกำลังตามหารถ กระบะ คันทีก่อเหตุ แต่ก็มีข้อมูลน้อยมากเพราะรถกระบะที่ก่อเหตุไม่ได้ติดป้ายทะเบียน และจากการที่ตำรวจลงตรวจสอบพื้นที่พบว่าอาวุธปืนที่คนร้ายนำมาใช้ก่อเหตุนั้นเป็นอาวุธสงคราม และปัจจุบันทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังไม่สามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ แต่คาดการณ์กันว่า คนร้ายไม่น่าจะทำร้ายอดีตแฟน

เพราะจากการสอบถามข้อมูลผู้คนที่ใกล้ชิดกับคนร้ายไม่ว่าจะเป็นเพื่อน หรือแม้แต่ญาติญาติ ต่างก็บอกว่าคนร้ายเป็นคนนิสัยดี และเป็นคนที่กลัว ขี้แย ซึ่งทุกคนต่างก็แปลกใจเช่นกันว่าคนที่นิสัยขี้กลัวแบบนี้จะมาก่อเหตุแบบนี้ได้ แต่หลายคนก็ออกมาบอกว่าฝ่ายชายเลิกกับผู้หญิงก็จริงแต่ก็ยังรักฝ่ายหญิงมากจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ก่อเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น

ส่วนทางด้านของแฟนใหม่ ตอนนี้ยังคงติดตามาหาตัวแฟนของตัวเองอยู่และยังปิดร้านซ่อมรถ โดยที่ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะเปิดร้านเมือไหร่ คงต้องรอดูว่าเจ้าหน้าที่จะตามตัวคนร้ายมาลงโทษได้เมื่อไหร่

Valentine Day เศรษฐกิจแย่ทำให้ร้ายขายดอกไม้ได้น้อยลง

Posted on 19 กุมภาพันธ์ 202019 กุมภาพันธ์ 2020Categories ข่าวทั่วไปTags

       สำหรับ Valentine Day 2020 เป็นวันแห่งความรัก

ซึ่งตามปกติในวันวาเลนไทน์ของทุกปีจะเป็นวันที่แม่ค้าพ่อค้าต่างก็จะสามารถขายดอกไม้ เช่นดอกกุหลาบได้กำไรเป็นกอบเป็นกำ แต่สำหรับวาเลนไทน์ในปีนี้แตกต่างจากทุกปีเป็นอย่างมากเพราะในปีนี้นั้นถือได้ว่าเป็นปีที่เงียบเหงามากสำหรับเหล่าพ่อค้าและแม่ค้า เพราะดอกไม้ที่สั่งมาเพื่อเตรียมมาขายในวันวาเลนไทน์นั้นเหลือเยอะมากกว่าทุกทุกปีที่ผ่านมา

ซึ่งจากการสอบถามพ่อค้าและแม่ค้าส่วนใหญ่ต่างก็ออกมาบอกตรงกันว่าปกติแล้ววันวาเลนไทน์ตั้งแต่เช้าก็มักจะมีเด็กนักเรียน นักศึกษามาหาซื้อดอกกุหลาบทั้งแบบดอกเดี่ยวเดี่ยวหรือทั้งทำเป็นช่อ เพื่อซื้อไปเป็นของของขวัญให้กับแฟนกันทั้งนั้นแต่ในปีนี้ ผลปรากฏว่าเงียบเหงามาก เด็กนักเรียนมาซื้อดอกกุหลาบกันน้อยมาก

และที่สามารถขายดอกไม้ได้นั่นก็เพราะว่า พ่อค้าและแม่ค้าจะมีลูกค้าประจำที่จะต้องมาซื้อทุกวันเพื่อนำดอกไม้ไปไหว้หรือถวายพระเท่านั้น แต่หากเป็นการซื้อเพื่อเป็นของขวัญสำหรับปีนี้นั้น ถือว่าแทบไม่มีลูกค้าเลยก็ว่าได้ ซึ่งทำให้ในปีนี้มีดอกไม้เหลือเป็นจำนวนมาก ทำให้ร้านค้าต่างต่าง  ต่างก็ขาดทุนจากการสั่งดอกไม้มาขายในวันแห่งความรักนี้กันแทบจะทุกร้านเลยก็ว่าได้     

    สำหรับดอกไม้วันวาเลนไทน์ที่ขายไม่ได้นั้น

จากการที่นักข่าวได้ลงไปสำรวจพื้นที่อื่นอื่นก็พบว่ามีปัญหาแบบเดียวกันนี้เกือบทุกจังหวัด ไม่เว้นแม้แต่ในกรุงเทพเองก็ตาม ซึ่งวาเลนไทน์ปีนี้เรียกได้ว่าไม่คึกคักเหมือนกับปีอื่นอื่นที่ผ่านมา ซึ่งอาจจะแปลได้ว่าตอนนี้สภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยไม่ค่อยดี มีหลายคนมากที่กำลังตกงานและหลายบริษัทมีแนวโน้มที่จะมีการปิดกิจการลงทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองก็จะมีการจำกัดการให้เงินบุตรหลานในการใช้จ่าย

ซึ่งเด็กเด็กเองก็ต้องเก็บเงินเพื่อเอาไว้ใช้ในยามจำเป็นเช่นกัน  สำหรับราคาดอกไม้ที่มีการนำมาจำหน่ายในวันวาเลนไทน์ในปีนี้นั้น ถือว่าราคาก็เท่ากับเมื่อปีที่ผ่านมาซึ่งราคาดอกกุหลาบหากเป็นดอกเล็ก แม่ค้าก็จะคิดราคาดอกละ 10 บาทแต่หากเป็นดอกใหญ่หน่อย สวยมากหน่อยก็จะคิดดอกละ 30 บาท – 50 บาท แต่ถ้าทำเป็นช่อก็จะมีหลายราคาให้เลือก ตั้งแต่ 500 บาทขึ้นไป ซึ่งราคานี้ถือว่าเป็นราคาของดอกไม้ในช่วงวาเลนไทน์ปกติ แต่ก็ยังคงพบปัญหาดอกไม้ขายได้น้อยอยู่ดี