จากกรณีที่นายวีระพลอายุ 48 ปี ได้มีการเล่าให้กับผู้สื่อข่าวฟังถึงเหตุผลที่เขาได้พาแม่ที่พิการไม่สามารถเดินได้วัย 92 ปีออกมาจากบ้านของตนเองและมาหาบ้านเช่าอยู่นั้นเขาให้เหตุผลกับนักข่าวว่าแต่เดิมนั้น นายวีระพลและแม่อาศัยอยู่ที่บ้านพี่สาวคนโตซึ่งบ้านหลังดังกล่าวเป็นมรดกที่แม่ยกให้พี่สาวคอยดูแลเลยหวังว่าแม่จะได้รับการเลี้ยงดูจากพี่สาวเป็นอย่างดีในบั้นปลายของชีวิตแต่เมื่อประมาณ 6 ปีก่อน
แม่เกิดล้มแล้วพบว่าสะโพกหลุดทำให้กลายเป็นคนพิการไม่สามารถเดินได้หลังจากนั้นพี่เขยก็ได้พาแม่ไปปลูกเพิง อยู่ในบริเวณบ้านโดยมีนายวีระพลเป็นผู้คอยดูแลแม่เพียงคนเดียวและที่สำคัญนายวีระพลจะต้องจ่ายเงินค่าเช่าที่ที่มีการปลูกบ้านพักอยู่ในพื้นที่ของพี่เขยซึ่งถือว่าเป็นมรดกที่แม่ยกให้กับพี่สาวนั้นเดือนละ 800 บาท
ซึ่งนายวีระพลเองได้บอกว่าตนเองนั้นต้องคอยดูแลแม่อยู่ตลอดเวลาจึงไม่ได้ออกไปหางานทำจึงได้เพียงแค่เงินเลี้ยงชีพคนชราและเงินคนพิการเท่านั้นที่เป็นค่าใช้จ่ายโดยเขาเองต้องนำเงินส่วนนั้นแบ่งออกมา 800 บาทเป็นค่าเช่าที่แต่เมื่อไม่นานมานี้เองพี่เขยได้มีการขับไล่ให้เขาออกจากบ้านเขาจึงได้พาแม่ที่พิการออกมาหาห้องเช่าอยู่กันเพียงลำพังสองคนแม่ลูก
ซึ่งเขารู้สึกสบายใจมากกว่าตอนที่พาแม่อาศัยอยู่ในบ้านของพี่สาวมากเลยเขามองว่าค่าเช่าห้องก็เดือนละ 800 เท่ากันแต่เขายังสบายใจมากกว่าเจ้าของห้องเช่าทราบเรื่องราวก็ได้มีการลดค่าเช่าให้เขาเหลือเพียงเดือนละแค่ 400 บาทเท่านั้นจึงทำให้เขายังมีเงินเหลือพอที่จะมาจ่ายค่าน้ำค่าไฟและนำมาเป็นค่ากินอยู่ของทั้งตัวเขาเอง
และของแม่ที่กำลังพิการซึ่งเมื่อคราวนี้โด่งดังออกไปก็มีหลายหน่วยงานออกมาให้ความช่วยเหลือเลยในตอนนี้เอง มีผู้ใจบุญบริจาคเงินให้เขาได้ประมาณ 200,000 บาทแล้ว ซึ่งนายวีระพลเองก็บอกว่าเขาจะนำเงินที่ได้รับบริจาคมานี้ดูแลแม่จนกว่าจะถึงวินาทีสุดท้ายของแม่ซึ่งในขณะที่นักข่าวกำลังลงไปเยี่ยมนั้นก็พบว่ามีพี่สาวคนที่ 3 เดินทางมาเยี่ยมแม่แล้วก็น้องชายโดยเธอบอกว่าปัญหาพี่เขยกับน้องชายนั้นมีมานานแล้วและเธอเองก็ไม่พอใจเหมือนกันที่แม่ต้องไปนอนตามเพิงแบบนั้นซึ่งเธอรู้สึกดีใจที่น้องชายและแม่ของเธอออกมาอยู่ข้างนอกแบบนี้ในขณะเดียวกัน
เมื่อนักข่าวไปสัมภาษณ์พี่เขยก็ได้บอกว่าตนเองไม่ได้ไล่แม่ออกจากบ้านแต่เกิดการทะเลาะกันระหว่างตนเองและน้องเขยจึงได้แค่เพียงน้องเขยเท่านั้นแต่น้องเขยเป็นคนพาแม่ออกจากบ้านไปเองซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้เป็นการทะเลาะกันภายในครอบครัวแต่ก็สร้างความเดือดร้อนให้กับคนเป็นแม่ที่เป็นหญิงชราอายุ 92 ปีแถมยังพิการอีกด้วยโดยเมื่อมีการพูดคุยกับชาวบ้านและญาติพี่น้องก็พบว่าแม่ลูกคู่นี้ได้รับการกระทำที่ไม่เป็นธรรมจากทางพี่เขยจริงหลายฝ่ายจึงได้ออกมาช่วยเหลือ เพื่อให้ทั้งนายวีระพลและแม่ ไม่ต้องลำบากมากนัก
ได้รับการสนับสนุนโดย alpha88