สาเหตุการที่นักธุรกิจรายหนึ่งได้มีการออกมาโพสต์เตือนภัยเกี่ยวกับการถูกแก๊งหลอกลวงหลอกให้เอาซิมไปใส่โทรศัพท์มือถืออีกเรื่องที่แก๊งต้มตุ๋นนำมาให้เพราะบอกว่าได้รับรางวัลในเมื่อนักธุรกิจคนดังกล่าวได้ทำตามปรากฏว่าเงินหายออกจากบัญชีเกือบ 5 แสนบาท
ซึ่งเขาได้มีการแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจเพื่อกำลังดำเนินคดีตามกฎหมายหลังจากที่มีการแชร์เรื่องราวออกมาจนเป็นข่าวใหญ่โตปรากฏว่าในช่วงบ่ายวันเดียวกันนั้น Facebook ของนักธุรกิจคนดังกล่าวก็มีการโพสต์ข้อความใหม่อีกครั้งหนึ่งว่าสรุปแล้วเรื่องเงินของเขาที่หายนั้นเกิดขึ้นจากคนในครอบครัวแอบโอนเงินออกไปซึ่งเขาได้โพสต์ขอโทษคนในโลกโซเชียลหลังจากนั้นนักข่าวคนที่เคยนำโทรศัพท์มือถือมาให้ซึ่งเป็นหนึ่งในแก๊งต้มตุ๋นก็ได้ออกมาเขียน Facebook ตอบโต้เกี่ยวกับเรื่องของการที่นำข้อมูลของเขาออกมาเปิดเผยว่า
เขาเป็นคนนำโทรศัพท์มือถือมาให้และเป็นหนึ่งในแก๊งคนร้ายซึ่งเขายืนยันจะดำเนินคดีกับนักธุรกิจคนดังกล่าวแต่สรุปว่าหลังจากนั้นไม่นานนักธุรกิจดังกล่าวได้ออกมาโพสต์ Facebook มาอีกครั้งหนึ่งโดยครั้งนี้เขาระบุว่าก่อนหน้านี้ที่มีข้อความเขียนว่าครอบครัวตนเองเป็นคนเอาเงินไปนั้นไม่เป็นความจริงและตนเองไม่ได้เป็นคนโพสต์เลยก็ยังระบุอีกว่าตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรม Line หรือว่าอีเมล หรือว่า Facebook ทุกอย่างในโลกโซเชียลของเขาถูกแฮกเกอร์แฮกข้อมูลออกไปหมด
Hacker สามารถที่จะเข้าไปทำอะไรกลับข้อมูลของเขาได้หมดเลยเลยเขาได้ระบุอีกว่าก่อนนะนี้แฮกเกอร์คนดังกล่าวได้มีการติดต่อมายังนักธุรกิจเพื่อเรียกร้องขอเงินเพิ่มอีก 2แสน บาทแล้วต้องการให้นักธุรกิจคนดังกล่าวหยุดเรื่องการดำเนินคดี คนร้ายโดยมีการข่มขู่ว่าจะทำการปิด Facebook LINE และเว็บไซต์บริษัทของนักธุรกิจ
เมื่อนักธุรกิจคนดังไม่ยอมเธอก็เลยทำให้เห็นว่ามันสามารถทำได้ด้วยการแฮกข้อมูลเข้ามาใน Facebook แล้วเขียนข้อความดังกล่าวและที่สำคัญมันยังแฮ็กเข้าไปในไลน์ของนักธุรกิจคนดังกล่าวแล้วไปทำการยืมเงินเพื่อนของเขาเต็มไปหมดซึ่งขณะนี้เขาได้นำหลักฐานทั้งหมดไปให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียบร้อยแล้วสำหรับเรื่องนี้ทางเพจ hacking and Society book ได้ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ด้วย
ว่าความเป็นไปได้ในการถูกแฮกเกอร์เข้ามาแฮกข้อมูลนั้นสามารถทำได้ถ้าหากว่านักธุรกิจคนดังกล่าวใช้รหัสผ่านตัวเดียวกันหมดในการเข้าไปเล่นโซเชียลมีเดียของตนเองซึ่งถ้าเกิดว่าแฮกเกอร์นั้นทราบข้อมูลอีเมลของนักธุรกิจพวกมันก็จะสามารถเข้าไปแก้ไขข้อมูลต่างๆและสามารถควบคุม Social Media ของเรา
ได้ทั้งหมดซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่น่ากลัวมากในขณะนี้ดังนั้นหากใครก็ตามที่ตอนนี้มีการใช้งาน Social Media อยู่แล้วส่วนใหญ่มักจะใช้ใน username กับ Passwordตัวเดียวกันในการเข้าไปเล่น แนะนำว่าควรจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลเราไม่เช่นนั้นจะทำให้พวกแฮกเกอร์สามารถรู้ข้อมูลส่วนตัวของเราและอาจจะเกิดเหตุการณ์เช่นเดียวกับนักธุรกิจคนนี้ก็ได้
ขอบคุณ bk8 ที่ให้การสนับสนุน