ชายหนุ่มทำงานเป็นรองนายก อบต. เครียดหนักเข้าห้องใช้ปืนยิงตนเอง เสียชีวิต

Posted on 21 สิงหาคม 2020Categories ข่าวเด่นวันนี้Tags ,

        เจ้าหน้าที่ตำรวจที่จังหวัดปราจีนบุรีได้มีการรับแจ้งเหตุว่ามีผู้เสียชีวิตจากการใช้อาวุธปืนยิงเข้าที่ขมับตัวเองได้รับบาดเจ็บสาหัสและได้มีการนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรแต่เนื่องจากผู้บาดเจ็บไม่สามารถทนพิษบาดแผลได้จึงทำให้ผู้บาดเจ็บได้เสียชีวิตระหว่างเดินทางไปที่โรงพยาบาลซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. เมืองปราจีนบุรีได้มีการลงพื้นที่ไปยังบ้านหลังที่เกิดเหตุเพื่อทำการเก็บรวบรวมหลักฐานว่าเป็นการฆ่าตัวตายเอง

หรือว่าถูกฆาตกรรมซึ่งบ้านที่เป็นสถานที่เกิดเหตุนั้นเป็นบ้าน 2 ชั้นซึ่งมีลักษณะเป็นห้องแถวติดๆกันโดยเมื่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปในบริเวณบ้านพบว่าจุดที่เกิดเหตุนั้นอยู่ที่ชั้น 2 เป็นห้องนอนของผู้เสียชีวิตเองโดยในห้องดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพบอาวุธปืนที่ใช้สังหารผู้ก่อเหตุตกอยู่เป็นปืนขนาด 9 มมและมีร่องรอยของคราบเลือดตกอยู่บนโซฟาจากการสอบสวนเบื้องต้น

พบว่าผู้เสียชีวิตนั้นชื่อว่านายเดชฤทธิ์  เขาทำงานตำแหน่งเป็นถึงรองนายก อบต.วัดโบสถ์  ซึ่งเขาเป็นลูกชายของ  จ.ส.อ.ต้องชนะ  ซึ่งมีตำแหน่งเป็นนายก  อบต. วัดโบสถ์ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสอบถามพยานในพื้นที่เป็นประชาชนที่อยู่ใกล้กับบ้านที่เกิดเหตุพบว่าก่อนเกิดเหตุนั้นภรรยาของผู้เสียชีวิตได้ขับรถออกมาจากข้างนอกกำลังเข้าบ้านเมื่อภรรยาของผู้เสียชีวิตเข้าบ้านไปเพียงแค่ประมาณ 10 นาทีเท่านั้น

เพื่อนบ้านก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัดหลังจากนั้นก็พบว่าภรรยาของผู้เสียชีวิตได้วิ่งออกมาจากตัวบ้านพร้อมตะโกนร้องเรียกให้เพื่อนบ้านได้เข้าไปช่วยเหลือสามีของตนเองและเมื่อทุกคนวิ่งเข้าไปดูก็พบว่าผู้เสียชีวิตนั้นนอนจมกองเลือดอยู่โดยมีปืนตกอยู่ข้างตัวชาวบ้านจึงได้พากันนำร่างของผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาล

ซึ่งในขณะนั้นผู้เสียชีวิตเองยังไม่ตายแต่ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสแต่ยังไม่สามารถเดินทางไปถึงโรงพยาบาลผู้บาดเจ็บก็สิ้นใจตายก่อนทางชาวบ้านได้ให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าผู้เสียชีวิตนั้นเป็นบุคคลที่นิสัยดีเป็นที่รักของคนทุกคนและเขายังเป็นคนที่หน้าตาดีที่สำคัญเขาเคยเป็นนักฟุตบอลสโมสรปราจีนบุรีเอฟซีซึ่งหลายคนยังไม่ทราบสาเหตุว่าเขาฆ่าตัวเองตายเนื่องจากสาเหตุอะไรทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องมีการเชิญภรรยาของผู้เสียชีวิตไปให้ปากคำเพื่อสืบหาสาเหตุการตายต่อไป

         ช่วงนี้เราต่างก็พบว่าผู้คนมีการฆ่าตัวตายกันเป็นจำนวนมากซึ่งส่วนใหญ่มาจากปัญหาส่วนตัวทำให้หลายคนเกิดความเครียดแล้วเมื่อหาทางออกไม่ได้จึงทำการคิดสั้น       

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  bk8

ฆาตกรฆ่าลูกตัวเองฝังดินเมียเก่าออกมาแฉข่มขืนแฟนลูก

Posted on 6 มิถุนายน 20206 มิถุนายน 2020Categories ข่าวเด่นTags ,

ฆาตกรฆ่าลูกตัวเองฝังดินเมียเก่าออกมาแฉข่มขืนแฟนลูกทุกคนแม้แต่หลานก็ยังไม่เว้น

          จากกรณีที่มีข่าวว่ามีคนพบศพชายคนหนึ่งอายุประมาณ 21 ปีถูกฆ่าฝังดินอยู่ในสวนที่จังหวัดสงขลาหลังจากนั้นก็สามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ ซึ่งจากการสืบสวนพบว่าคนที่ลงมือก่อเหตุชายหนุ่มคนดังกล่าวนั้นเป็นพ่อแท้ๆของเขาเองชื่อว่านายอรุณเลยทำให้การนี้เกิดมาจากลูกสะใภ้ของนายอรุณที่บอกว่าเกิดจากการที่นายอรุณนั้นหึงหวงลูกสะใภ้

และต้องการลูกสะใภ้ไว้ในครอบครองจึงได้ทำการฆ่านายอรุณโดยทางลูกสะใภ้ของนายอรุณยังได้บอกอีกว่าถูกนายอรุณนั้นข่มขืนมายาวนานเป็นระยะเวลา 7 เดือนแล้วแต่ที่ไม่หนีเนื่องจากว่าเป็นห่วงรูปที่พึ่งอายุได้เพียงแค่ 9 เดือนเท่านั้นจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้แม้ว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการจับกุมตัวนายอรุณเพื่อทำการขังคุกเรียบร้อยแล้วแต่ก็ยังมีการศึกษาเรื่องราวกันไม่จบสิ้นโดยหลายคนมองว่าเหตุใดนางสาวกุ้งซึ่งเป็นลูกสะใภ้ของนายอรุณถึงยอมได้นานขนาดนั้น

และถึงแม้เรื่องนี้นางสาวกุ้งจะออกมาชี้แจงแล้วแต่ก็ยังไม่คลายความสงสัยให้กับคนทั่วไปอย่างไรก็ดีเขาได้มีการลงติดตามพื้นที่เพื่อสอบถามถึงเรื่องนี้ว่ามีแนวโน้มจะจริงหรือไม่เกี่ยวกับเรื่องที่นายอรุณนั้นข่มขืนลูกสะใภ้คนเองซึ่งอดีตภรรยาของนายอดุลย์ก็คือนางวันวิสาได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าเชื่อว่าเป็นความจริงเนื่องจากว่าก่อนหน้านี้นายอดุลย์ก็เคยก่อเหตุเช่นนี้แล้ว

กับบรรดาแฟนของลูกชายซึ่งไม่ใช่นางสาวกุ้งเป็นคนแรกทุกคนที่เป็นแฟนของลูกชายของนายอรุณจะถูกนายอรุณพยายามข่มขืนทั้งหมดรวมถึงนายทุนยังเคยก่อเหตุพยายามจะข่มขืนหลานสาวของตนเองด้วยแต่ทำไม่สำเร็จทำให้ทุกคนต่างก็พากันหนีหายไปไม่กลับมาบ้านอีกเลยอย่างไรก็ดีนางวันวิสายังกล่าวอีกว่าตอนที่นายอรุณน่าจะฆ่าลูกชายไปเสร็จเรียบร้อยแล้วนั้นยังได้โทรกลับมาหาเธอเพื่อสอบถามถึงลูกชายว่าหายไปเห็นหรือไม่เมื่อเธอบอกว่าไม่เห็นในอรุณก็พูดเหมือน

ทำนองว่าลูกชายนั้นมีนิสัยชอบหายออกจากบ้านไปบ่อยๆอีกทั้งยังบอกให้เธอส่งลูกชายอีกคนหนึ่งไปให้ช่วยทำงานโชคดีมากที่เธอไม่ได้ส่งลูกชายอีกคนไปให้ไม่เช่นนั้นลูกชายอีกคนของเธออาจจะถูกนายอรุณฆ่าตายอีกคนก็ได้เพราะลูกชายอีกคนนั้นก็ทราบถึงเรื่องราวการกระทำของนายอรุณมาโดยตลอดสำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้นางวิสาขากล่าวว่านายอรุณนั้นชื่อร้ายเกินกว่าที่จะสมควรมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้เพราะสามารถทำได้แม้กับลูกตนเองที่เป็นลูกแท้ๆหนึ่งนั้นเธออยากจะให้เจ้าหน้าที่ส่งเรื่องนี้ไปถึงศาลและให้ศาลลงโทษสูงสุดเลย

 

สนับสนุนโดย  bk8

ชาวผูกคอเสียชีวิตภายในวันเดียวถึง 3 คนในจังหวัดนครศรีธรรมราช 

Posted on 5 มิถุนายน 20205 มิถุนายน 2020Categories ข่าวที่น่าสนใจTags ,

     เจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัดนครศรีธรรมราชได้รับแจ้งเหตุจากชาวบ้านว่ามีคนผูกคอเสียชีวิตซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นในวันที่ 4 เดือนมิถุนายนปีพศ2563 โดยการรับแจ้งเหตุในครั้งนี้มีการแจ้งเหตุทั้งหมด 3 เคสด้วยกันซึ่งในเคสแรกนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปที่ตำบลช้างซ้ายอำเภอพระพรหมในเวลาประมาณ 14:00 นตรงซึ่งบริเวณจุดเกิดเหตุนั้นจะเป็นบริเวณป่าละเมาะริมคลองชลประทาน เบอร์โทรเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปถึงก็พบศพผู้ชายเสียชีวิตจากการสอบสวนทราบว่าผู้เสียชีวิตนั้น

คือนายสุภาพโดยเขาได้เอาเสื้อมาปลูกกับต้นไม้และแขวนคอตัวเองและจากการตรวจสอบพบว่าตายมาแล้วประมาณ 3 ชั่วโมงซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่าในสภาพนั้นติดคุกแล้วเพิ่งออกจากห้องขังมาเมื่อกลับมาถึงบ้านว่าภรรยาของตนเองนั้นหนีไปอยู่กับผู้ชายคนอื่นแล้วทำให้เขาเสียใจจึงกลับมาอยู่ที่บ้านกับพ่อแม่และมาผูกคอเสียชีวิ

ตายดังกล่าวนั้นเองซึ่งตำรวจสันนิษฐานว่าน่าจะเกิดจากความน้อยใจที่พระยาทิ้งเกิดเวลาไล่เลี่ยกันไม่นานนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางไปที่ตำบลท้องลำเจียกอำเภอเชียรใหญ่ที่นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่ามีผู้ชายผูกคอเสียชีวิตไปในบ้านพักของตนเองซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าผู้เสียชีวิตนั้นชื่อว่านายน้อยชนะและตายมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4 ชั่วโมง

ทางญาติได้เล่าให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจฟังว่านายน้อยชนะนั้นน่าจะฆ่าตัวตายเนื่องจากความเครียดที่ตนเองนั้นเป็นโรคไทรอยด์โดยนายน้อยฉะนั้นเป็นโรคชนิดนี้มานานแล้วรักษาอย่างไรก็ไม่หายสักทีดังนั้นทางญาติและตำรวจจึงสันนิษฐานว่านายน้อยฉะนั้นอาจจะเกิดความเครียดเกี่ยวกับการเป็นโรคแล้วรักษาไม่หายจึงได้ตัดสินใจถูกคอเพื่อหนีโรคภัยไข้เจ็บของตนเอง

หลังจากนั้นไม่นานก็มีรายงานจากชาวบ้านว่ามีคนพบศพหญิงสาวคนหนึ่งแขวนคอตายที่อำเภอปากพนังซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดจากการที่หญิงสาวคนดังกล่าวชื่อว่านางสาววาสนาได้มีการป่วยด้วยโรคซึมเศร้าจึงได้ตัดสินใจที่จะฆ่าตัวตายแต่ในขณะเดียวกันนั้นนางสาววาสนาก็มีลูกสาวอยู่ 1 คนอายุ 11 ขวบเธอจึงได้ตัดสินใจที่จะฆ่าลูกสาวให้ตายตามพร้อมกับเธอไปด้วย

แต่เนื่องจากว่าขณะที่เธอแขวนคอลูกสาวเธอนั้นลูกสาวของเธอสลบและเสื้อเกิดขาดทำให้ลูกสาวของเธอนั้นไม่เสียชีวิตแต่ตัวนางสาววาสนาเองนั้นผูกคอตายและเสียชีวิตจึงทำให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องดำเนินการตรวจสอบศพเกี่ยวกับศพของคนผูกคอตายเสียชีวิตในจังหวัดนครศรีธรรมราชรวมกันถึง 3 ศพซึ่งเป็นการฆ่าตัวตายในวันเดียวกันนั่นเองถึงแม้จะคนละอำเภอก็ตาม

 

สนับสนุนโดย  bk8

ดราม่าเงินห้าแสนหายจากบัญชี เจ้าของอ้างมีคนแฮ็กข้อมุล

Posted on 29 พฤษภาคม 202029 พฤษภาคม 2020Categories ข่าวเด่นTags ,

           สาเหตุการที่นักธุรกิจรายหนึ่งได้มีการออกมาโพสต์เตือนภัยเกี่ยวกับการถูกแก๊งหลอกลวงหลอกให้เอาซิมไปใส่โทรศัพท์มือถืออีกเรื่องที่แก๊งต้มตุ๋นนำมาให้เพราะบอกว่าได้รับรางวัลในเมื่อนักธุรกิจคนดังกล่าวได้ทำตามปรากฏว่าเงินหายออกจากบัญชีเกือบ 5 แสนบาท

ซึ่งเขาได้มีการแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจเพื่อกำลังดำเนินคดีตามกฎหมายหลังจากที่มีการแชร์เรื่องราวออกมาจนเป็นข่าวใหญ่โตปรากฏว่าในช่วงบ่ายวันเดียวกันนั้น Facebook ของนักธุรกิจคนดังกล่าวก็มีการโพสต์ข้อความใหม่อีกครั้งหนึ่งว่าสรุปแล้วเรื่องเงินของเขาที่หายนั้นเกิดขึ้นจากคนในครอบครัวแอบโอนเงินออกไปซึ่งเขาได้โพสต์ขอโทษคนในโลกโซเชียลหลังจากนั้นนักข่าวคนที่เคยนำโทรศัพท์มือถือมาให้ซึ่งเป็นหนึ่งในแก๊งต้มตุ๋นก็ได้ออกมาเขียน Facebook ตอบโต้เกี่ยวกับเรื่องของการที่นำข้อมูลของเขาออกมาเปิดเผยว่า

เขาเป็นคนนำโทรศัพท์มือถือมาให้และเป็นหนึ่งในแก๊งคนร้ายซึ่งเขายืนยันจะดำเนินคดีกับนักธุรกิจคนดังกล่าวแต่สรุปว่าหลังจากนั้นไม่นานนักธุรกิจดังกล่าวได้ออกมาโพสต์ Facebook มาอีกครั้งหนึ่งโดยครั้งนี้เขาระบุว่าก่อนหน้านี้ที่มีข้อความเขียนว่าครอบครัวตนเองเป็นคนเอาเงินไปนั้นไม่เป็นความจริงและตนเองไม่ได้เป็นคนโพสต์เลยก็ยังระบุอีกว่าตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรม Line    หรือว่าอีเมล   หรือว่า Facebook   ทุกอย่างในโลกโซเชียลของเขาถูกแฮกเกอร์แฮกข้อมูลออกไปหมด

Hacker สามารถที่จะเข้าไปทำอะไรกลับข้อมูลของเขาได้หมดเลยเลยเขาได้ระบุอีกว่าก่อนนะนี้แฮกเกอร์คนดังกล่าวได้มีการติดต่อมายังนักธุรกิจเพื่อเรียกร้องขอเงินเพิ่มอีก 2แสน บาทแล้วต้องการให้นักธุรกิจคนดังกล่าวหยุดเรื่องการดำเนินคดี คนร้ายโดยมีการข่มขู่ว่าจะทำการปิด Facebook LINE และเว็บไซต์บริษัทของนักธุรกิจ

เมื่อนักธุรกิจคนดังไม่ยอมเธอก็เลยทำให้เห็นว่ามันสามารถทำได้ด้วยการแฮกข้อมูลเข้ามาใน Facebook แล้วเขียนข้อความดังกล่าวและที่สำคัญมันยังแฮ็กเข้าไปในไลน์ของนักธุรกิจคนดังกล่าวแล้วไปทำการยืมเงินเพื่อนของเขาเต็มไปหมดซึ่งขณะนี้เขาได้นำหลักฐานทั้งหมดไปให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียบร้อยแล้วสำหรับเรื่องนี้ทางเพจ hacking and Society book ได้ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ด้วย

ว่าความเป็นไปได้ในการถูกแฮกเกอร์เข้ามาแฮกข้อมูลนั้นสามารถทำได้ถ้าหากว่านักธุรกิจคนดังกล่าวใช้รหัสผ่านตัวเดียวกันหมดในการเข้าไปเล่นโซเชียลมีเดียของตนเองซึ่งถ้าเกิดว่าแฮกเกอร์นั้นทราบข้อมูลอีเมลของนักธุรกิจพวกมันก็จะสามารถเข้าไปแก้ไขข้อมูลต่างๆและสามารถควบคุม Social Media ของเรา

ได้ทั้งหมดซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่น่ากลัวมากในขณะนี้ดังนั้นหากใครก็ตามที่ตอนนี้มีการใช้งาน Social Media อยู่แล้วส่วนใหญ่มักจะใช้ใน username กับ Passwordตัวเดียวกันในการเข้าไปเล่น แนะนำว่าควรจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลเราไม่เช่นนั้นจะทำให้พวกแฮกเกอร์สามารถรู้ข้อมูลส่วนตัวของเราและอาจจะเกิดเหตุการณ์เช่นเดียวกับนักธุรกิจคนนี้ก็ได้

 

ขอบคุณ  bk8  ที่ให้การสนับสนุน