รัฐมนตรีการศึกษากลับหลังด่านักเรียนในสภา

Posted on 14 กันยายน 202014 กันยายน 2020Categories ข่าวเด่นวันนี้Tags ,

สถานการณ์ทางการเมืองวันนี้ยังมีความกังวลเรื่องการปฏิวัติรัฐประหารยังเป็นเรื่องที่ทุกคนยังพูดกันอย่างต่อเนื่องอย่างที่ได้มีการพูดกันมาโดยตลอดทั้งสัปดาห์การพูดเรื่องรัฐประหารเกิดขึ้นทั้งในหมู่ของพรรคประชาธิปัตเกิดขึ้นในกรณีคุณธนาธร แม้กระทั่งพรรคก้าวไกลเองก็ได้มีการหยิบเอาประเด็นนี้ไปตั้งคำถามกับนายประยุทธ์ในการอภิปรายเรื่องนโยบายในช่วงที่ผ่านมาจนกระทั่งทำให้พลังประชารัฐต้องประะทวงกันอย่างชุลมุนวุ่นวายกันทั้งสภา

นอกจากนี้นักข่าวก็ได้ถามนายประยุทธ์เรื่องการปฏิวัติรัฐประหารหรือไม่ถามนายประวิตรเรื่องการปฏิวัติรัฐประหารหรือไม่มันกลายเป็นประเด็นที่อยู่ในสปอตไลท์ที่เป็นเรื่องที่หน้าเศร้าสลดใจไม่ควรจะมีสังคมไหนในโลกที่การใช้กำลังการใช้การยึดอำนาจประชาชนและประชาชนได้กลายเป็นเรื่องที่ประชาชนกังวลว่าจะเกิดแล้วได้ถามกันทั้งประเทศ

ซึ่งได้เทียบเหมือนกับประเทศเราได้เป็นประเทศที่ผู้หญิงจะต้องมาถามผู้ชายว่าเธอจะข่มขืนฉันหรือไม่คนดีๆจะต้องถามโจรผู้ร้ายว่าจะปล้นบ้านผมหรือเปล่าในวันไหน

โดยประเทศไทยได้เป็นแบบนี้น่าเศร้าสลดแต่ในความเป็นจริงอันน่าเจ็บปวดว่าหลังจากปี2549 ประเทศไยได้กลายเป็นเหมือนแดนสนธิธยาที่ผู้มีอำนาจลึกลับใช้ทหารเป็นเครื่องมือในการรวมศูนย์อำนาจเอาไว้ที่ตัวเองทั้งทางตรงและก็ทางอ้อม

ข่าวของความกังวลเรื่องของการปฏิวัติรัฐประหารในคราวนี้ได้มีความรุนแรงและสัญญาณของฝั่งที่อยากจะทำการปฏิวัติรัฐประหารได้มีมาอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นการออกมาโจมตีนักเรียนนักศึกษาตรงๆของรัฐหรือกลไกลขอลรัฐอย่างกองทัพเอง

ซึ่งไม่ว่าจะเป็นการพูดการจาในเรื่องของเชิงด้อยค่านักเรียนนักศึกษานายประยุทธ์ได้พูดในที่สภาไปเรียบร้อยแล้วว่านักเรียนนักศึกษานั้นอาจจะเป็นคนจำนวนมากแต่ขอว่าอย่าลืมว่าประเทศไทยนั้นคนส่วนใหญ่ไม่ใช่นักเรียนนักศึกษาเป็นสัญญาณที่ไม่ค่อยดีหรือแม้กระทั่งคุณณัฐพล ทีปสุวรรณรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาได้ขึ้นเวทีกับนักเรียน

ในกรณีกลุ่มของนักเรียนเลวที่หน้ากระทรวงศึกษาดุดีแต่พอได้เข้าไปในสภากลับพูดด่านักเรียนว่าเป็นพวกท่อน้ำเลี้ยงมีกระบวนการยุยงปลุกปั่นอยู่เบื้องหลังและจะตามล่าคสที่อยู่เบื้องหลังและนี่เป็นสัญญาณของการปฏิวัติรัฐประหาร

สำหรับโจทย์การปฏิวัติรัฐประหายเป็นเรื่องที่ไม่ควรที่จะเกิดขึ้นในสังคมไทยเราจะต้องย้ำกันแล้วว่าการประติวัรัฐประหารมันก็ไม่ต่างอะไรกับการข่มขืนไม่ต่างกับการปล้ดมันเป็นการกระทำที่ผิดแล้วมันก็ไม่ควรจะมีสังคมไหนที่คนเราควรจะต้องถามว่าคุณจะเข้ามาข่มขืนฉันเมื่อไหร่จะปล้ดบ้านเมื่อไหร่จะฆ่าฉันเมื่อไหร่คุณจะปฏิวัติรัฐประหารเมื่อไหร่

 

สนับสนุนโดย  betbb

การนำรองเท้าที่มีคนบริจาค ออกไปขาย 

Posted on 16 มิถุนายน 202016 มิถุนายน 2020Categories ข่าวเด่นวันนี้Tags ,

โรงพยาบาลรามาได้ออกมาอธิบายถึงสาเหตุที่ได้มีการนำรองเท้าที่มีคนบริจาค ออกไปขาย 

        กำลังเป็นกระแสดราม่าในโลกออนไลน์เป็นอย่างมากเมื่อมีข้อความที่ถูกแชร์ออกไปเกี่ยวกับเรื่องของการที่พนักงานพยาบาลของโรงพยาบาลรามาธิบดีได้มีการนำรองเท้าซึ่งมีผู้คนนั้นรวบรวมเงินกันแล้วนำไปบริจาคให้กับทางพยาบาลของโรงพยาบาลรามาเอาไว้ใช้สำหรับการทำงานในโรงพยาบาลได้มีการออกมาขายให้กับประชาชนทั่วไปคู่ละ 600 บาท

ทำให้หลายคนมองว่าสิ่งของที่ประชาชนตั้งใจบริจาคไปให้นั้นถูกนำไปแปลเป็นเงินซึ่งผิดกับหลักเจตนารมณ์ของคนที่อยากจะช่วยเหลือพยาบาลยังไงก็ตามเรื่องราวเกี่ยวกับเรื่องของพยาบาลได้เอารองเท้าออกมาขายแทนที่จะเอาไว้ใช้งานตามหลักจนาของคนบริจาคก็ทำให้มีการพูดถึงเรื่องนี้กันเป็นจำนวนมาก

โดยในที่สุดทางโรงพยาบาลรามาก็ได้ออกมาชี้แจงกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นถึงสาเหตุว่าทำไมทางด้านเจ้าหน้าที่อาวุโสของโรงพยาบาลรามาถึงได้นำรองเท้าที่มีการบริจาคไปให้นั้นออกมาจำหน่ายแทนที่จะแจกจ่ายให้กับพยาบาลทุกคนซึ่งเหตุผลที่ได้กล่าวมานั้นก็เพราะว่ารองเท้าที่ทางแบรนด์รองเท้าดังกล่าวนำไปบริจาคให้กับโรงพยาบาลรามานั้นมีจำนวนสายที่ไม่ครบกับจำนวนพยาบาลเพราะว่าไซต์ของเท้าของพยาบาล

แต่ละคนนั้นแตกต่างกันทำให้เมื่อลองคำนวณการแจกดูแล้วปรากฏว่าบางคนก็จะมีรองเท้าแต่บางคนก็จะไม่ได้รับรองเท้าเพราะว่าไม่มีไซส์ที่เหมาะกับเท้าซึ่งทำให้ในที่สุดแล้วและเจ้าหน้าที่อาวุโสจึงได้มีการพูดคุยกันว่าหากเป็นเช่นนั้นก็จะเป็นการว่าพยาบาลบางคนจะได้รับรองเท้าแต่พยาบาลบางคนก็จะไม่ได้รับความช่วยเหลือนี้ดังนั้นเพื่อให้พยาบาลทุกคนได้รับสิทธิ์เท่าเทียมกันทางโรงพยาบาลจึงได้เปลี่ยนจากการนำรองเท้าที่บริจาคมานั้นแทนที่จะให้กับพยาบาลซึ่งอาจจะได้ใช้ไม่ครบทุกคนเปลี่ยนมาเป็นเงินแทน

เพื่อที่จะได้นำเงินดังกล่าวนั้นเข้าสู่คลังกลางของพยาบาลเพื่อที่จะได้นำเงินดังกล่าวนำไปช่วยเหลือพยาบาลได้อย่างทั่วถึงนั่นเองโดยทางโรงพยาบาลยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาที่จะไม่เอารองเท้าที่ผู้คนนำบริจาคเพียงแต่ว่าถ้าเกิดนำไปแจกจ่ายให้กับพยาบาลแล้วมันจะไม่ได้ใช้งานกันอย่างทั่วถึงและแน่นอนว่ารองเท้าที่มีการบริจาคไว้นั้นไม่ได้ครบกับจำนวนพยาบาลที่มีอยู่ในโรงพยาบาลทุกคน

ดังนั้นหากมีการกระจายออกไปก็ทำให้บางคนอาจจะได้รับและบางคนอาจจะไม่ได้รับซึ่งมันจะกลายเป็นว่า พยาบาลนั้นได้รับความช่วยเหลือในปัญหาดังกล่าวได้อย่างไม่ทั่วถึงดังนั้นเพื่อป้องกันปัญหาพยาบาลทะเลาะกันเองจึงได้มีการนำรองเท้ามาขายเพื่อนำเงินไปเข้าสวัสดิการของพยาบาลจะดีที่สุดโดยทางผู้จัดการอาวุโสนั้นได้มีการทําบัญชีรายรับรายจ่ายเอาไว้ด้วยซึ่งสามารถมาตรวจสอบหลักฐานได้

 

 

สนับสนุนโดย  betbb