คนเก็บขยะพบศพทารกถูกทิ้งอยู่ในถังขยะ

Posted on 1 พฤษภาคม 20201 พฤษภาคม 2020Categories ประเด็นข่าวTags ,

คนเก็บขยะพบศพทารกถูกทิ้งอยู่ในถังขยะจับคนร้ายได้เพราะมีใบแจ้งหนี้อยู่ในถุงที่ทิ้งศพด้วย

          ที่จังหวัดนนทบุรีช่วงประมาณเวลา 8:00 นของวันที่ 28 เดือนเมษายนปีพศ 2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุจากพนักงานเก็บขยะของเทศบาลเมืองจังหวัดนนทบุรีโดยเขาแจ้งว่าพบศพทารกเสียชีวิต   ซึ่งอยู่ใกล้กับบริเวณเอพีแมนชั่นตรงถนนประชาชื่นซอยประชาชื่นนนทบุรี 7 ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ประสานงานกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์และมูลนิธิร่วมกตัญญูเดินทางไปยังจุดที่พบศพซึ่งผู้เห็นเหตุการณ์และเป็นคนที่เจอทารกนั้นได้เล่าให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจฟังว่าตนเองเป็นพนักงานเก็บขยะของเทศบาล

ซึ่งเดินทางมาเก็บขยะตามปกติแล้วระหว่างที่เก็บขยะจากถังขยะอยู่นั้นพบว่ามีถุงพลาสติกใบหนึ่งมีลักษณะเป็นใบใหม่และมีลวดลายสวยงามจึงต้องการที่จะเก็บเอาไปไว้ใช้เขาจึงได้มีการเทของที่อยู่ภายในถุงนั้นทิ้งแล้วปรากฏว่ามีศพของเด็กทารกร่วงลงมาหลังจากนั้นเขาจึงได้มีการโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาดูศพของเด็กทารก

ซึ่งจากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการตรวจสอบสภาพถุงที่ทิ้งศพทารกพบว่าด้านในนอกจากจะมีทารกเพศชายอยู่แล้วยังมีผ้าขนหนูและผ้าอ้อมรวมถึงหลักฐานสำคัญที่สามารถทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามแม่ของเด็กทารกคนนี้ได้นั่นก็คือใบแจ้งค่าใช้บริการโดยมีการระบุชื่อเจ้าของใบแจ้งหนี้ว่าชื่อนางสาวก้อย

โดยมีการเขียนที่อยู่เอาไว้ว่าเป็นจังหวัดนครราชสีมาดังนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บรวบรวมหลักฐานทั้งหมดและได้มีการเชิญตัวนางสาวก้อยเพื่อมาสอบถามข้อมูลซึ่งในที่สุดนางสาวก้อยก็ให้การรับสารภาพว่าเธอเองเป็นแม่ของเด็กจริงโดยเธอมีอาชีพเป็นผู้ช่วยพยาบาลซึ่งขณะนี้เธออายุ 22 ปีซึ่งขณะที่คลอดลูกออกมานั้นเธอได้เลิกรากับสามีไปจึงได้เลี้ยงลูกคนเดียว

แต่เนื่องจากลูกของเธอร่างกายไม่แข็งแรงมาตั้งแต่เกิดเธอจึงได้เดินทางนำรูปไปให้พ่อกับแม่ที่ต่างจังหวัดเพื่อจะได้เลี้ยงแต่เมื่อไปถึงเห็นสภาพที่พ่อแม่อายุมากแล้วจึงไม่กล้ารบกวนนางสาวก้อยจึงได้พาลูกของเธอกลับมายังอพาร์ทเม้นท์ที่อยู่ในปัจจุบันหลังจากนั้นก็อยู่ดูแลลูกตามปกติแต่มีเหตุการณ์ช่วงเวลาประมาณ 4:00 น. ของวันที่ 27 เดือนเมษายนปี 2563 

โดยเธอพบว่าลูกของเธอนอนเสียชีวิตแล้วซึ่งก่อนหน้านั้นเธอได้เผลอหลับไปจึงไม่ทราบว่าเกิดอะไรกับลูกแต่ด้วยความตกใจว่าลูกเสียชีวิตเธอจึงนำลูกของเธอใส่ถุงแล้วนำไปทิ้งที่ถังขยะโดยเธอยืนยันกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าไม่ได้มีการฆ่าลูกตนเองแต่อย่างใดซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการตรวจสอบต่อไปแต่เบื้องต้นได้มีการแจ้งข้อหาเอาไว้เกี่ยวกับการที่เธอปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพโดยนำศพทารกไปทิ้งในถังขยะ

 

สนับสนุนโดย  next88

สาวอ.บ.ตถูกสังหารโหดเฮียม

Posted on 6 เมษายน 20204 เมษายน 2020Categories ประเด็นข่าวTags ,

ในวันที่14มีนาคม พ.ศ.2560 เวลาไกล้ค่ำทางด้านตำรวจ ส.ภ.คลองห้าจังหวัดปทุมธานีได้รับแจ้งเหตุว่ามีหญิงสาวได้ถูกยิงจนเสียชีวิตอยู่ภายในรถเก๋งตรวจสอบตรงที่เกิดเหตุได้พบรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้าแอคคอร์ดสีดำได้จอดเสียหลักอยู่ริมถนนทางด้านของเบาะคนขับได้พบผู้เสียชีวิตได้เป็นหญิงจำนวนหนึ่งคน

สภาพศพนั้นได้นอนหงาย สวมเสื้อสีดำ ใส่กางเกงขายาวสีน้ำตาล และ มีบอดแผลได้ถูกยิงที่ลำตัวสองนัด จากนั้นก็ได้ทราบชื่อของผู้ที่เสียชีวิต คือ นางสาววีรญาภา งามวิลัย อายุประมาณ36ปี ได้เป็นหัวหน้าฝ่ายนโยบายและแผน นักบริหารส่วนตำบลบึงชำอ้อ  ในขณะที่เกิดเหตุได้มีพยายานเห็นผู้ชายคนหนึ่งได้นั่งอยู่ภายในรถข้างๆของผู้ที่เสียชีวิต

และในช่วงที่รถวิ่งผ่านไปอย่างช้าๆก็ได้ยิงเสียงปืนดังขึ้นจำนวนสองนัดจากนั้นรถก็ถไหลลงข้างทางสักพักก็มีคนเห็นผู้ชายได้เปิดประตูและลงมาจากรถได้หลบหนีไป คดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญได้เกิดขึ้นอีกแล้วตำรวจทั้งจาก ส.ภ. คลองห้าตำรวจภูธรภาค1และตำรวจกองปราบปรามได้เข้าร่วมสืบสวนคดีนี้อย่างเร่งด่วน

และไม่นานก็ได้พบปมบางอย่างเจ้าหน้าที่ พ.ถ. ได้เข้าตรวจสอบภายในรถเก๋งฮอนด้าแอคคอร์ดสีดำคันที่เกิดเหตุจากนั้นก็ได้พบทะเบียนสมรสเปลือนเลือดทะเบียนสมรสใบนี้ได้ตกอยู่ที่เบาะหลังของรถเก๋งและในเอกสารได้มีชื่อของผู้ตายคือ นางสาววีรญาภา งามวิลัย ได้จดทะเบียนสมรสกับ นายไพโรจน์ ปิติพันธรัตน์

ซึ่งได้เป็นนักธุรกิจชื่อดังแห่งเมืองระยองและที่หน้าสนใจคือในวันที่จดทะเบียนคือวันที่13มีนาคม 2560 แสดงว่าทั้งสองคนนั้นเพื่อจะได้จดทะเบียนสมรสกันได้แค่เพียง1วัน เจา้สาวป้ายแดงถูกยิงตายอย่างโหดเฮียมถึงตอนนี้ตำรวจก็ได้เริ่มมองเห็นเหตุจูงใจในการสังหารโหดสาว อ.บ.ต. แล้วอีกทั้งผู้ตายเองก็ยังได้โพสเฟสบุ๊คก่อนที่เธอนั้นจะเสียชีวิตความในใจของผู้ตายที่นอกจะอยากทำบุญยังมีข้อความที่ได้โพสไปก่อนหน้านี้

บ่งบอกถึงความไม่พอใจใครบางคน นางสาววีรญาภา งามวิลัย ยังได้โพสข้อความอีกว่า ทวงจนคนทวงรู้สึดอายเกลียดมากพวกคนที่ไม่รักษาคำพูดอยากรู้ว่าเงินแค่นี้จะทำให้พวกมึงเจริญขึ้นมั้ยคำพูดของคนไม่มีสัจจะก็เปรียบเหมือนเสียงหมาเห่าที่เห่าไปวันๆ ปมสังหารหญิงสาวตอนนี้จึงอาจไมใช่มีแค่ปมเดียวอีกทั้งยังสงสัยว่าทำไมจะต้องมาสังหารฆ่าที่จุดตรงนี้ด้วยและปมก็ยังมีอีกหลายปมต้องรอการตรวจสอบอีกครั้ง

 

สนับสนุนโดย  entaplay

การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

Posted on 26 กุมภาพันธ์ 202022 กุมภาพันธ์ 2020Categories ประเด็นข่าวTags

 แนะเลี่ยงไปพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคไวรัสโควิด-19หากอยากไปเที่ยวเกาหลี

มีประกาศเตือนออกมาจากสถานทูตของเกาหลีซึ่งได้ออกมาประกาศเตือนนักท่องเที่ยวชาวไทยที่จะเดินทางไปเที่ยวยังประเทศเกาหลีใต้ซึ่งหากถ้าใครไปเที่ยวเกาหลีช่วงนี้คุณพยายามหลีกเลี่ยงการเดินทางไปในสถานที่ที่มีรายชื่อว่าพบการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งในขณะนี้ปลุกว่าที่ประเทศเกาหลีใต้มีจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสชนิดนี้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

จะกรณีที่ตอนนี้ทั่วโลกกำลังเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสซึ่งในโซนเอเซียเองก็มีหลายประเทศด้วยกัน มีรายงานข่าวเข้ามาว่า Facebook ของสถานทูต ณ กรุงโซลประเทศเกาหลีใต้ได้มีการมาโพสต์ข้อความเตือนนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ต้องการจะเดินทางไปเที่ยวที่ประเทศเกาหลีใต้โดยมีการเขียนข้อความแจ้งเข้ามาว่าในขณะนี้ที่ประเทศเกาหลีใต้มีการประกาศเตือนเกี่ยวกับการแพทยระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 รวมถึงยังมีการแพร่ระบาดเกี่ยวกับโรคปอดอักเสบ

ซึ่งการติดเชื้อเป็นโรคปอดอักเสบนี้ก็มีผลพวงมาจากการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าเช่นเดียวกัน

โดยมีรายการข่าวแจ้งเข้ามาว่าที่ประเทศเกาหลีใต้มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าโดยจากสถิติข้อมูลที่ได้รับมามีการระบุว่าแค่เพียงสัปดาห์เดียวเท่านั้นก็ตรวจพบว่ามีชาวเกาหลีใต้จำนวน 156 คนที่ได้ติดเชื่อไวรัสโคโรน่าเรียบร้อยแล้วซึ่งพื้นที่ที่มีการแพทยระบาดมากที่สุดก็คือเมืองแทกูและยังมีพื้นที่โดยรอบของจังหวัดคยองซังเหนือที่ตรวจพบว่ามีผู้ติดเชื้อไวรัสชนิดนี้รวมทั้งสิ้น 111 คนนี่คือข้อมูลล่าสุดจนถึงวันที่ 21 กุมภาพันธ์ปีพ.ศ. 2563

ซึ่งทางการสถานทูตเกาหลีได้เล็งเห็นแล้วว่าทางเกาหลีใต้ยังไม่สามารถที่จะทำการควบคุมไม่ให้เชื่อไวรัสนี้แพร่ระบาดได้ดังนั้นจึงได้ประกาศเตือนคนไทยที่จะไปท่องเที่ยวที่ประเทศเกาหลีใต้ในช่วงนี้ให้พยายามหลีกเลี่ยงสองเมืองที่กล่าวมาทั้งต้นเนื่องจากว่าทั้งสองเมืองนี้กำลังเป็นจุดที่มีการแพร่ระบาดมากที่สุดของประเทศเกาหลีใต้ในช่วงนี้

และถ้าหากนักท่องเที่ยวคนไหนที่ยังต้องการไปเที่ยวที่ประเทศเกาหลีใต้ช่วงนี้ก็ให้พยายามหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมนี้จุดที่มีคนมาชุมนุมร่วมกันเป็นจำนวนมากและควรระวังในเรื่องของการรักษาสุขภาพของตนเองโดยให้สวมใส่หน้ากากอนามัยรวมถึงให้ทำความสะอาดมือบ่อยบ่อยและหาต้องรับประทานอาหารควรจะมีช้อนกลางเพื่อเป็นการดูแลตัวเองป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าแต่ในทางที่ดีแล้วในช่วงนี้ไม่ควรเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศจะเป็นการดีที่สุดเอาไว้สามารถควบคุมไวรัสได้แล้วค่อยไปเที่ยวก็ยังไม่สาย